ถ้าจะพูดถึงร้านส้มตำแซ่บๆ ในกรุงเทพฯ ต้องยกให้ร้านนี้ “ครกไม้ไทยลาว” ซึ่งวันนี้เราจะพาไปตะลุย ครกไม้ไทยลาว 2 ที่ซอยรามอินทรา 14 (ซอยมัยลาภ) ที่ว่าเป็น “ครกไม้ไทยลาว 2” เพราะว่า สาขานี้คือสาขาที่ 2 โดยสาขาแรกจะอยู่ที่ลาดปลาเค้า 24
ร้านนี้เรียกว่าระดับตำนานอาหารอีสานเลย (ไม่ใช่เค้าตำส้มตำนานนะ) ขึ้นชื่อลือชาเรื่อง ตำป่า ตำแปลก ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบนอกฤดูกาล อาหารที่หาทานยาก เมนูแปลกๆ ไข่มด ไข่มังกร ร้านนี้มีครบ!
ร้านใหญ่รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก ที่จอดรถกว้างขวาง เหมาะกับมาทานอาหารกับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือจะมาจัดงานเลี้ยงฉลองก็ได้ (มีเวทีด้วย) โดยเราสามารถเลือกนั่งฟินกับบรรยากาศเอาท์ดอร์ หรือจกส้มตำอินดอร์ก็มีทั้งโซนแอร์และพัดลม
ผมโดดงานมาวันธรรมดาช่วงกลางวัน คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ตามคอนเซปร้านอาหารไทย-ลาว แม้แต่จานก็ยังมีภาษาลาว
ข้าวเหนียว (15 บาท)
ตัดริบบิ้นด้วยข้าวเหนียว แค่นี้ความฟินก็บังเกิดแล้ว ข้าวเหนียวห่อด้วยใบตอง เปิดมามีควันบางๆ กับกลิ่นอ่อนๆ ของใบตองติดมากับข้าวเหนียว คุณเอ๊ยย ฟีลลิ่งมันได้
ท้าดาาาาา อาหารมาเร็วทันใจมาก รอไม่นานอาหารเต็มโต๊ะเลย จังหวะนี้ขอกลืนน้ำลายก่อนเลย 1 ที
ตำลาวปูม้าสด (80 บาท)
เมนูนี้ได้ใจผมทั้งทีมเลย หลังจากชิมคำแรกไปแล้ว ขออุทานแบบ Native Speaker ว่า “ซะมานัวคักแท้!” ปลาร้าร้านนี้เจ้มจ้นมากคุณเอ๊ย ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี เอาเป็นว่า ถ้าไม่เกรงใจโต๊ะข้างๆนะ อยากจะปั้นข้าวเหนียวเข้าปาก แล้วคว้าหลอดมาปักใส่จานดูดน้ำปลาร้าตามเข้าไปรัวๆ ฮืออ นัวคักกกกกก
ปูม้าสดมากก ไม่รู้เพาะพันธุ์อยู่หลังร้านหรือยังไง ถึงได้สดขนาดนี้ ใส่มาให้เยอะด้วย ดูดปูม้าฟินมากเลย
น้ำตกหมูดำคูโรบูตะ (70 บาท)
หมูนุ่มอร่อย ติดมันหน่อยๆ รสชาติเผ็ดปานกลาง โดยหมูร้านนี้เค้าใช้หมูดำคูโรบูตะ เป็นพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความนุ่ม เพราะมีเส้นใยกล้ามเนื้อที่ละเอียดกว่าหมูพันธุ์อื่นๆ ทั้งความนุ่มของเนื้อหมู ทั้งรสชาติจัดจ้านของน้ำตกมาฟีเจอร์ริ่งกันในจานนี้จานเดียว
อยากจะบอกว่าหมูเค้านี่นุ่มจริงไรจริงครับ ส่งหมูดำเข้าปากหนึ่งชิ้น กัดข้าวเหนียวหนึ่งคำ สวรรค์อยู่ตรงหน้านี่เองงงงงงง
กุ้งแช่น้ำปลา (70 บาท)
เมนูนี้ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มซีฟู้ดเลยครับ ตักเข้าปากคำโตๆ กุ้งสดเด้ง คลุกน้ำจิ้มพร้อมกระเทียมสด มะระสด และกะหล่ำซอย ครบทุกรสเลย หวาน เปรี้ยว เผ็ด เค็ม จัดจ้านดี
แกงอ่อมหมูดำคูโรบูตะ (70 บาท)
แกงอ่อมร้านนี้ปรุงแบบถึงเครื่อง ถึงรส มากกกกกกกกกกกก น้ำแกงรสชาติกลมกล่อม พืชผักนี่ยกมาทั้งสวน หอมผักชีลาว หมูดำคูโรบูตะก็ใส่มาเยอะ คุ้มมากๆ ซัดข้าวได้หลายจาน
รสชาติความแซ่บและกลิ่นหอมของบรรดาผัก ถูกหมูดำนุ่มๆ ซึมซับเข้ามา ส่งเข้าปากคำแรกนี่กรี๊ดเลยครับ …ร้อน
คำต่อมาอร่อย อร่อยม๊ากกกกก รสสัมผัสความนุ่มของเนื้อหมูทำให้แกงอร่อยขึ้นมา x10 เลยจ้า เมนูแกงอ่อมหมูดำคูโรบูตะ เป็นเมนูที่ผมและเพื่อนๆ ปลื้มกันมาก ใครมาร้านนี้ ต้องสั่ง!!
ซูมมมมมมมมมม ทั้งหมูทั้งผัก ให้มาแบบไม่หวงเลย ถึงเครื่องจริงๆ
แกงคั่วเห็ดเผาะ (80 บาท)
เมนูนี้จัดว่าเป็นเมนูหาทานยากเมนูหนึ่งเลยครับ เนื่องจากใช้เห็ดเผาะซึ่งเป็นวัตถุดิบแรร์ไอเทม หาทานได้เฉพาะหน้าฝน รสชาติแกงคั่วเห็ดเผาะร้านนี้เข้มข้นกลมกล่อมมาก ดูสีน้ำแกงสิ เห็ดกรุบกรอบกับยอดชะอมหอมในน้ำแกงที่เผ็ดกำลังดี ความมันจากกะทิช่วยส่งความรู้สึกละมุนที่ปลายลิ้นอีกด้วย อร่อยจริงๆ
เพิ่มเติมครับ เห็ดเผาะ หรือ เห็ดถอบ นี่เป็นเห็ดป่าที่ไม่มีต้นและราก หาทานได้ยาก เนื่องจากหาเก็บได้แต่ในป่า โดยเฉพาะป่าเต็งรัง และออกเพียงปีละครั้งในช่วงต้นฤดูฝน ไม่รู้ว่าระหว่างแฟนกับเห็ดเผาะอะไรมันจะหายากกว่ากัน เอิ๊กๆ
หมูดำคูโรบูตะหมักแจ่วย่าง (70 บาท)
อีกหนึ่งเมนูจากหมูดำคูโรบูตะ หมูหมักนุ่มรสกลมกล่อม รสชาติเข้าเนื้อ ทานเปล่าๆ ก็อร่อย แต่ถ้าได้จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วด้วยแล้ว อื้อหืออ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม น้ำจิ้มแจ่วคือทีเด็ด เปรี้ยว หวาน เผ็ด รสชาติลงตัว น้ำจิ้มที่ชิมไปวันนี้ชอบทุกเมนูเลย ร้านนี้น้ำจิ้มเค้าดีงามจีจี (แต่แจ่วถ้ามีข้าวคั่วเพิ่มอีกจะดีงามมาก)
เมื่อหมูดำคูโรบูตะ ได้เข้าไปพบเจอกับฟันกราม ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งนุ่ม ทั้งเด้ง รสชาติของน้ำจิ้มแจ่วกระจายทั่วปาก อาาาห์ กัดข้าวเหนียวหนึ่งคำตามเข้าไปช่วยปิดจ๊อบ
ตำถั่วหมูกรอบ (60 บาท)
จานนี้ก็แซ่บครับท่านผู้ชม แข่งกันกรุบกรอบอย่างดุเดือด ทั้งความกรอบจากหมู และความกรุบๆ จากถั่วฝักยาว รสชาติถูกปาก เคี้ยวในปากกรุบๆ กรอบๆ นอกจากจะเคี้ยวเพลินแล้ว ทานคำแรกก็ตาสว่างเพราะรสเปรี้ยวหวานสไตล์ตำไทย
เสน่ห์ของร้านนี้อยู่ที่การดึงจุดเด่นของวัตถุดิบและเครื่องปรุงแต่ละอย่างมาผสมผสานคลุกเคล้ากันได้อย่างลงตัว อย่างจานนี้ได้ความเค็มจากหมูที่ปรุงรสชาติเปรี้ยวหวาน บังเกิดเป็นตำถั่วหมูกรอบครบรส!
ไก่ทอดเกลือครึ่งตัว (100 บาท)
ไก่ทอดร้านนี้มีจุดเด่นที่หนังกรอบแบบ กรอบสาสสสสส รสชาติเค็มๆ แต่เนื้อยังชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ผมชอบไก่ทอดแบบนี้มาก อยากได้สูตรไว้ทำเองจัง
ผลไม้เกล็ดหิมะ (40 บาท)
หลังจากจัดหนักจัดเต็มกับของคาวแล้ว เราก็ต้องล้างปากกันด้วยของหวานสักหน่อย จัดไป 3 ถ้วย (มาสามคนนะ) ประกอบด้วยสตรอเบอร์รี่ลอยแก้ว สละลอยแก้ว และกระท้อนลอยแก้ว สตรอว์เบอร์รีเนื้อเยอะดี แต่แช่มาแบบแข็งจัดเลยแอบกินยาก แต่รสชาติอร่อยดีครับ
จงอย่าลืมทำพิธีก่อนทาน
สรุปร้านครกไม้ไทยลาว 2 ซอยมัยลาภ
- อาหารประเภทตำและแกงถึงเครื่อง ถึงรส ถึงรสชาติลงตัวมาก ตำรับอาหารลาวแท้ๆ (แต่รสชาติไม่เผ็ดจัด)
- เมนูหมูดำคูโรบูตะนุ่มจริง อร่อยจริง ไม่เสียชาติหมู อยากอุ้มหมูกลับไปทำกับข้าวที่บ้าน
- คุณภาพ ปริมาณ และรสชาติถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก
- บริการดีเลิศมากครับ พนักงานนี่ถามอะไรรู้หมด แนะนำได้หมด เก็บจาน เทน้ำตลอด
- เสียดายที่ร้านอยู่ไกลจากตัวเมืองมากไปหน่อย ผมคงไม่สามารถมาได้บ่อยนักนอกจากแวะๆ ตอนเดินทางไปนู่นไปนี่
- เป็นร้านอาหาร ไทย-อีสาน-ลาว ที่ผมยกขึ้นหิ้งอีกร้านหนึ่งเลย ร้านนี้มีชื่อเสียงมานานแล้วนะ รู้สึกเสียใจที่เพิ่งได้มากิน ที่ผ่านมาเราทำอะไรอยู่ ใครชอบอาหารอีสานแซ่บๆ แต่ยังไม่เคยมาร้านนี้ถือว่าพลาด!!
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Website : www.crokmaithailao.com
- Facebook : www.facebook.com/crokmai
- Tel : 089 135 1230
- ถ้าให้ Google Maps นำทาง ให้ Search ว่า “Two Wooden Mortar” (ใครมันปักชื่อนี้เนี่ย) เพราะถ้าค้นว่าครกไม้ไทยลาวจะเจอแค่สาขาแรกครับ