เพชรบ้านแจม เป็นแบรนด์ขนมไทยพื้นบ้านชื่อดังแบรนด์หนึ่งในเซเว่น ซึ่งรสชาติดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะขนมผิงงาดำนี่แนะนำเลย เพลินมาก กินแล้วหยุดมือไม่ได้
ซึ่งวันนี้กระผมโชคดีม๊ากกกกกก ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานทำขนมของเพชรบ้านแจมเลยทีเดียว และจะได้เจอคุณป้าสมาน เจ้าของสูตรขนมไทยชื่อดังเมืองเพชรด้วยครับ
แล้วผมก็วาร์ปมาที่อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรีทันที โรงงานของคุณป้าอยู่นี่แหละ ตื่นเต้นมาก วันนี้เราจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างละ(โลภ)
คุณป้าเริ่มจากการเล่าประวัติที่มาของขนมเพชรบ้านแจมครับ
คือ เมื่อก่อนนู้นนนน ก่อนที่จะเป็นคุณป้าสมานยอดขายเดือนละล้านอย่างในปัจจุบันนี้ คุณป้าเคยทำงานหาบเร่ขายอาหาร ได้เงินเพียงสัปดาห์ละ 350 บาทเท่านั้น ซึ่งก็ตกวันละ 50 บาทเท่านั้นเอง โดยเงินจำนวนนี้ต้องเลี้ยงลูกๆ อีกสามคนด้วย
ด้วยความไม่ย่อท้อ คุณป้านำเงินทุนที่พอเก็บหอมรอมริบได้ เอามาลองหัดทำขนมไทยด้วยตัวเอง ช่วงแรกคุณป้าลองผิดลองถูกอยู่นานมาก ลองนำไปหาบเร่ขาย ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง วันไหนขายได้น้อย ขนมเหลือ ก็นำไปแจกจ่ายพร้อมกับขอความคิดเห็นเกี่ยวกับรสชาติแล้วนำไปปรับปรุง
จากนั้นขนมของคุณป้าก็ถูกขัดเกลาและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จาก feedback ของลูกค้านั่นแหละ จนมาตอนหลังลูกค้าเริ่มติดใจ เริ่มมีร้านค้ารับไปขาย ทำให้คุณป้าได้เริ่มมีโอกาสขยับขยายธุรกิจไปเรื่อยๆ ในช่องทางต่างๆ ที่พอเป็นไปได้ จนงานเข้าเยอะมาก คุณป้าและพนักงานถึงกับอดหลับอดนอนเพื่อเร่งทำขนมเลยทีเดียว
และที่มาของชื่อ “เพชรบ้านแจม” ก็มาจากพรรคพวกที่มาช่วยกันทำขนมนั่นเอง ประมาณว่า คนเพชรมาแจมกัน
จนคุณป้าลองเอาแบรนด์ไปเสนอเซเว่น แต่ตรงนี้ไม่ง่ายแล้วครับ เพราะจะมีผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบมาตรฐานเหมือนหนังเรื่องวัยรุ่นพันล้านหน่ะแหละ ทีนี้คุณป้าเลยต้องขยับขยายทำเป็นโรงงาน ใช้เครื่องจักรมากขึ้น ปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน จนในสุดท้ายก็ได้เข้าไปจำหน่ายในเซเว่น
มาถึงตอนนี้ชีวิตคุณป้าเปลี่ยนไปแล้ว ส่งขายเซเว่น ส่งขายร้านของฝากชื่อดังในเมืองเพชรฯ ส่งออกต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็น SMEs ที่ประสบความสำเร็จสุดๆ เจ้าหนึ่งเลย (อิจป้ามาก ฝึกทำขนมแพพ)
ซึ่งตอนนี้มี SMEs ที่คุณภาพดีๆ อย่าง “เพชรบ้านแจม” เข้าไปจำหน่ายสินค้าในเซเว่นกว่า 1,000 แบรนด์แล้วหล่ะครับ
หลังจากนั่งฟังคุณป้าอยู่ตั้งนาน ผมเหนื่อยมากเลยครับ(เหรอ) ทีมงานนำขนมหม้อแกงมาให้ชิมครับ อันนี้เป็นของชอบผมเลยหล่ะ และเพิ่งทราบวันนั้นเลยว่าขนมหม้อแกงจากร้านของฝากชื่อดังนันทวันรับหม้อแกงมาจากคุณป้าสมานนี่เอง O_o
คือเมื่อก่อนผมเรียนอยู่ศิลปากรเพชรบุรีนี่หล่ะครับ และทุกครั้งที่กลับบ้านก็จะแวะซื้อของฝากเป็นขนมหม้อแกงจากร้านนันทวัน ทีนี้เพิ่งทราบว่านันทวันรับขนมหม้อแกงมาจากคุณป้าสมาน แล้วนำไปติดแบรนด์นันทวันนั่นเอง (จะได้มาขายในเซเว่นบ้างมั้ย เค้ารอนะ) นึกภาพว่าเราชอบกินเลย์มาก แล้วมาเจอเจ้าของสูตรเลย์อ่ะ
ผมซัดก่อนเลยครับ ถาดนึงนั่งโซ้ยอยู่คนเดียว จนทีมงานเข้ามาสะกิดให้เข้าไปชมโรงงานก๊อนนนนน อ่ะ เครๆๆ
เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาเห็นโรงงานทำขนมไทยครับ มีเตาอบจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งอยู่ และเครื่องไม้เครื่องมือมากมายพร้อมกับวัตถุดิบในการทำขนม ใครชอบทำขนมต้องอยากมากางเต้นท์นอนในนี้แน่ๆ
มาชมเฉยๆ ก็กะไรอยู่ คุณป้าสมานเลยให้พวกเราลองทำขนมสังขยากันครับ วิธีทำก็ไม่ยากครับ เพราะคุณป้าเป็นคนทำ ผมดู
เริ่มจากตอกไข่เป็ดสดสีแดงเตรียมไว้
ตวงน้ำตาลมะพร้าวใส่ถ้วย (น้ำตาลปึก น้ำตาลปี๊บ อันเดียวกัน) เห็นหยั่งงี้คุณป้าคล่องแคล่วมากเลยครับ หยิบจับไวมาก นึกว่ามีสิบมือ
จากนั้นนำส่วนผสมลงไปในอ่าง ผสมกับน้ำกะทิตามอัตราส่วน เริ่มจากใช้มือขยำขยำขยำ
พอเริ่มเป็นเนื้อเดียวกันแล้วใช้ที่ตีคนเข้าไปครับ เพื่อความละเอียด
จากนั้นน้ำไปเทผ่านผ้าขาวบางเพื่อทำการกรอง
วาร์ปมาในส่วนของเตา นำพิมพ์สังขยาไปวางเรียงเตรียมไว้เลย จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้จากการกรองเทลงพิมพ์
รอครับ เพียงไม่นานเราก็ได้สังขยาหน้าตาน่าทานออกมาแล้ววววว ป้าสมานบอกว่าเคล็ดลับความอร่อยของขนมป้าอยู่ที่คุณภาพของวัตถุดิบและอัตราส่วนครับ ทุกอย่างต้องผ่านการตวงอย่างเป๊ะที่สุด
ถัดไปมาดูทางข้าวแต๋นบ้างครับ มีหลายแบบเลย ที่น่าโดนสุดเห็นจะเป็นข้าวแต๋นน้ำแตงโม โดยตัวข้าวใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ นำไปผสมกับข้าวเหนียวผัวหลงด้วย (เป็นสายพันธุ์ข้าวเหนียวที่มีกลิ่นหอม และคุณค่าทางโภชนาการสูงม๊ากกก)
ใครอยากชิมลองมองหาในเซเว่นได้ครับ มีหลายสาขาอยู่นะ (หนมผิงหย่อยมาก) เดี๋ยวว่าจะหามารีวิวทีเดียวให้ครบทุกอันเลย
และผมไม่ผิดหวัง ได้ขนมสังขยาและขนมหม้อแกงติดกลับมาด้วยครับ อิอิ (เกลียดท่าถือจัง)
ยะฮู้ววว ถ่ายรูปหมูก่อนกลับ ในนี้คนดังในวงการอาหารทั้งนั้นเลยครับ ปลื้ม