Flair 58 คือเครื่องสกัด espresso แบบ manual ในราคาหลักหมื่นปลายๆ ที่ได้ช็อตกาแฟคุณภาพดี ใช้เปิดร้านได้ และรสชาติสู้เครื่องแมชชีนราคาแพงได้สบาย
บทความนี้จะมารีวิวการใช้งาน รวมถึงประสบการณ์ที่ได้รับหลังจากใช้ Flair 58 เป็นระยะเวลา 6 เดือนหากใครสนใจสามารถกดซื้อจากตัวแทนจำหน่าย ได้ที่ Shopee : https://shp.ee/izafnfb

สรุปการใช้งาน Flair 58
- ในช่วงสัปดาห์แรกต้องฝึกใช้ประมาณหนึ่ง ทั้งในเรื่องของการหาเบอร์บดแต่ละเมล็ด ทั้ง flow ในการสกัดที่ยังไม่คุ้นเคยที่มักจะลืมนั่นลืมนี่ ก็จะเป็นช่วงที่มีเลอะเทอะกันประมาณหนึ่ง
- หลังจากใช้ไป 1 สัปดาห์เราจะเริ่มคุ้นเคย หลังจากที่ใช้งานจนคล่องก็สนุกกับการทำกาแฟในบ้านอย่างมาก ไม่มีติดขัดในเรื่องอะไรเลย ทุกอย่างน่าพอใจมากเทียบกับราคาของเครื่องตัวนี้
- ทำให้สนุกกับการชงกาแฟกินเองที่บ้านมาก ซื้อเมล็ดใหม่มาลองทุกเดือน
ข้อดีของ Flair 58
- Flair เป็นแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสกัดกาแฟแบบ manual จากอเมริกา เป็นที่นิยมทั่วโลก มี community ที่แข็งแกร่ง
- เป็นเครื่องสกัดกาแฟแบบ manual ตัวท็อปสุดในตอนนี้ ทั้งรสชาติและความเร็วในการต่อช็อตก็ระดับท็อปสุดล่ะ
- มี preheat ทำให้การใส่น้ำร้อนลงไปอุณหภูมิไม่ดรอป สะดวกในการสกัดอย่างมาก
- ใช้ portafilter ขนาด 58mm ที่เป็นขนาดมาตรฐานของเครื่องสกัดกาแฟ ทำให้มีตัวเลือกในการซื้อของแต่งเพิ่มเยอะ
- เนื่องจากเป็น manual จึงสามารถเล่น profile ได้เยอะ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความรู้ในการสกัดกาแฟด้วยนะ
ข้อเสียของ Flair 58
- ผู้ใช้ต้องมีความรู้ในการสกัดกาแฟประมาณหนึ่ง ใช้งานยากกว่าเครื่อง machine ที่มีระบบอัตโนมัติอยู่เยอะมาก
- แม้ว่าจะพัฒนาในเรื่องของการสกัดช็อตต่อเนื่องมาเยอะมากแล้ว แต่การทำช็อตกาแฟต่อแบบเนื่องในแง่ความเร็วก็ยังสู้เครื่อง machine ไม่ได้
- เราใช้เวลาทั้ง process ประมาณ 3 นาที เทียบกับเครื่อง machine อยู่ที่ 1 นาทีหรือน้อยกว่า
- ความนิ่งของรสชาติก็สู้ machine ราคาสูงๆ ไม่ได้
- มีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่ง หากมีการเคลื่อนย้ายบ่อย หรือพกไปสกัดตอนเดินทางท่องเที่ยว แนะนำตัวอื่นดีกว่า
รู้จักกับ Flair 58 และขั้นตอนการใช้งาน
Flair 58 เป็นเครื่องสกัดกาแฟแบบ manual ต่อยอดจาก Flair pro 2 ที่ค่อยๆ แก้ข้อเสียของการสกัดกาแฟแบบ manual จนเป็นรุ่นเรือธงที่ดีจนเป็นที่จับตามอง
จนเรียกเสียงฮือฮาจาก home brewer ทั่วโลก ตั้งแต่เจ้านี่ประกาศเปิดตัวออกมาตั้งแต่ ช่วงเดือนเมษายน 2021
ผลตอบรับจากทั่วโลกถือว่าดีมาก จนถึงกับผลิตไม่ทันกันเลยทีเดียว ช่วงที่เข้าไทยล็อตแรกๆ ก็ยังต้องแย่งกันจองจน inbox ของผู้จำหน่ายแทบแตก
แต่ปัจจุบันสามารถซื้อได้ง่ายขึ้นมากแล้วนะครับ กดสั่งจาก Shopee ได้เลย https://shp.ee/izafnfb

หลังจากเราได้เครื่องมา ก็ประกอบตามคู่มือเลยครับ ไม่ยาก 10 นาทีก็เสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็หาที่ตั้งสวยๆ แล้วเริ่มใช้งานได้เลย

เริ่มจากการ pre-heat เครื่อง เพื่อให้เวลาเราเทน้ำร้อนลงไป อุณหภูมิจะไม่ดรอปลงมา ด้วยการเสียบปลั๊กจากนั้นกดปุ่มค้างเอาไว้ประมาณ 2 วินาที จนไฟขึ้นสีเขียว เราจะเปิดทิ้งไว้ตอนสกัดครับ ใช้เสร็จก็ปิดนะ เปลืองไฟ
โดยไฟจะมีด้วยกัน 3 ดวง จะเป็นระดับความร้อนไฟ 1 ดวง ประมาณ 90 องศาเซลเซียส ไปจน 93 และ 95 ตามลำดับ โดยปกติแล้วผมใช้อยู่ที่ไฟ 2 ดวงครับ รอประมาณ 1-2 นาที ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ (ถ้าอยู่ในห้องที่เย็นอาจใช้เวลารอถึง 3 นาที)

นำผงกาแฟที่บดแล้ว ใส่ลงไปใน basket ประมาณ 18-20 กรัม (ส่วนตัวจะชอบใช้อยู่ที่ 20 กรัมครับ) แล้วแทมป์ให้พอตึงมือ จากนั้นวางแผ่นกระจายน้ำลงไปบนผงกาแฟที่แทมป์แล้ว

นำ portafilter เสียบลงไปที่ใต้เครื่อง โดยให้ด้ามจับชี้เข้าหาตัว เมื่อ basket ลงล็อคกับตัวเครื่องแล้ว ให้หมุนด้ามจับไปทางขวามือจนแน่น เพื่อล็อคไม่ให้ก้านชงหลุดในขณะที่สกัดกาแฟ

เทน้ำร้อนลงไปในแชมเบอร์จนสุด จากนั้นโยกก้านลงมา ทำการ pre-infuse ให้น้ำร้อนท่วมผงกาแฟ โดยใช้แรงดันประมาณ 1-3 บาร์ ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟ เอาให้น้ำกาแฟหยดลงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราจะแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที
หลังจากผ่านไป 10 วินาที ให้ใช้แรงโยกหนักขึัน จนขีดวัดแรงดันขึ้นไปอยู่ที่ 9 บาร์ จนสกัดเสร็จออกมาประมาณ 40 กรัม ใช้เวลาทั้งหมดรวม pre-infuse ควรจะอยู่ที่ 40-50 วินาที หากมากหรือน้อยกว่านั้นไปเยอะ แนะนำให้ค่อยๆ ลองปรับเบอร์บดครับ

เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ดื่มกาแฟคุณภาพดี จากเมล็ดกาแฟที่เราเลือกหาซื้อมาเองได้ จะนำไปทำอเมริกาโนหรือลาเต้ต่อก็จัดไป

อุปกรณ์ที่อาจจะต้องซื้อเพิ่ม
Flair 58 เป็นอุปกรณ์สำหรับสกัดกาแฟเท่านั้นครับ เราต้องมีอุปกรณ์อื่นเสริมการใช้งานด้วย เช่น กาน้ำร้อน ตาชั่ง เครื่องบดเมล็ดกาแฟ เป็นต้น

- ตราชั่งแบบจับเวลา ต้องขนาดเล็กหน่อยนะครับ แนะนำของ Weightman : https://shp.ee/xpg38sb
- กาน้ำร้อนแบบคุมอุณหภูมิได้ แนะนำของ Timemore : https://shp.ee/ts458st
- เครื่องบด แนะนำเป็นไฟฟ้านะครับ เนื่องจากต้องบดละเอียดพอสมควร ถ้าใช้เครื่องบดมือคุณอาจจะท้อแท้ไปก่อนได้ สำหรับวางที่บ้านผมแนะนำ Zentis NZR64 เฟือง SSP Red Speed Espresso ผม pre-order มาจากเพจนี้ครับ : fb.com/TheAlisonsCoffeeRoasters
ขอให้ทุกคน enjoy กับการดื่มกาแฟครับ 🙂
