เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มาเก๊ามีงานเทศกาลอาหาร The 16th Macau Food Festival ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งมาเก๊าประจำประเทศไทย ก็ใจดีพาทีมงานกูหิวไปช็อป ชิม ชิลล์กันที่งานนี้ด้วย งานนี้บอกเลยว่าของอร่อยเยอะมากกก จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันได้เลยจ้า
มาเก๊าคืออะไร?
ก่อนจะไปมาเก๊า เรามาปูพื้นกันก่อนนิดนึง ดินแดนมาเก๊าเนี่ยปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน โดยจะอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน อยู่ใกล้กับฮ่องกงมากกก สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปมาหากันได้เลย ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมง
มาเก๊าเคยเป็นพื้นที่อาณานิคมของโปรตุเกสมาก่อน (เพิ่งคืนให้จีนเมื่อปี 2542) จึงมีกลิ่นอายของความเป็นโปรตุเกสหลงเหลืออยู่ทั่วไป ป้ายบอกทางตามถนน-รถเมล์ จะเป็นภาษาโปรตุเกสแทบทั้งหมด เวลาเดินทางในเมืองก็อาจจะเป็นอุปสรรคนิดนึง แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มปรับให้มีภาษาอังกฤษเยอะขึ้นแล้วฮะ
การจับจ่ายซื้อของในมาเก๊า จะใช้เงินสกุล MOP หรือ “ปาตากา” ซึ่งเป็นสกุลเงินของมาเก๊าเอง ค่าเงินของมันจริงๆ จะอิงกับเงินฮ่องกง โดยที่ 1 ปาตากา จะเท่ากับ 0.97 ดอลล่าร์ฮ่องกง แต่เวลาซื้อของทั่วไปในเมือง ส่วนใหญ่ก็จะรับทั้งเงินปาตากา (MOP) เงินดอลล่าร์ฮ่องกง (HKD) และเงินหยวนของจีน (CNY) โดยจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่เข้าใจง่ายๆ คือ
1 MOP : 1 HKD : 1 CNY
แปลความได้ง่ายๆ ว่า ถ้าเราถือเงิน MOP เราจะซื้อของได้ราคาถูกสุดนั่นเอง เพราะเงินบาทแลกเป็นเงินมาเก๊าถูกสุดละ
เทศกาลอาหาร
สำหรับงานเทศกาลอาหารมาเก๊า ซึ่งเป็นจุดหมายหลักของเราในทริปนี้ เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นทุกๆ ช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยปีนี้จัดเป็นปีที่ 16 แล้วจ้า งานนี้เป็นงานที่รวมร้านอาหารหลายเชื้อชาติ มาอยู่ในรูปแบบของสตรีทฟู้ด เรียกว่าเอาภัตตาคารมาตั้งเต๊นท์ปรุงกันสดๆ ในงานนี้เลย สำหรับงานในปีนี้จัดไปเมื่อวันที่ 11-27 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา
ส่วนปีหน้าจะจัดเมื่อไหร่ ติดตามกันได้ที่ เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวมาเก๊า เด้อ (แว่วๆ ว่าเป็นวันที่ 10-26 พฤศจิกานะ)
ส่วนพื้นที่ในการจัดงาน จะจัดที่ลานริมทะเลสาปไซวาน ข้างๆ หอคอยมาเก๊าทาวเวอร์ สามารถนั่งรถเมล์หรือรถ shuttle bus ของโรงแรมต่างๆ มาลงที่หน้ามาเก๊าทาวเวอร์ แล้วข้ามไปที่บริเวณงานได้เลย
ส่วนพวกเราน่ะเหรอ เราเดินเท้าข้ามมาจากในเมืองล่ะ 555+ ทำให้เราได้ภาพมุมนี้มา จะเห็นว่าด้านล่างของหอคอยจะมีไฟสว่างๆ นั่นแหละคือจุดหมายของเราวันนี้ ไปกันโลดดด…
เข้างานกันเถอะ!
หลังจากอารัมภบทกันมาเยอะแล้ว ก็ขอพาทุกคนเข้างานกันเลย สำหรับใครที่เดินมาอย่างพวกเรา ก็จะต้องเข้างานทางฝั่งนี้ โดยโซนนี้จะเป็นโซนที่แยกส่วนออกมาจากตัวลานจัดงานหลัก ซึ่งเค้าจะจัดให้เป็นโซน Malaysian Village เน้นไปทางอาหารสไตล์มาเลย์และอาเซียน
เดินผ่านประตูมานิดนึงก็เริ่มเห็นได้ถึง…. ปริมาณคนและความคึกคักของงาน เริ่มหวั่นๆ ละว่าวันนี้จะได้กินมั้ยเนี่ย คนเยอะขนาดนี้ 5555+
บรรยากาศร้านค้าร้านอาหารในงาน จะจัดเป็นซุ้มๆ จากร้านต่างๆ ส่วนมากก็จะทำกันสดๆ โชว์ให้เห็นเลย ทั้งกลิ่นทั้งควันโชยเตะจมูกฝุดๆ
ของกินในงานนี้จะถูกใส่มาในชามโฟม หรือไม่ก็จานกระดาษ ราคาอาหารเริ่มต้นตั้งแต่ 20 MOP ไปจนถึงหลายร้อยก็มี
ของกินในโซนนี้จะดูคุ้นหน้าคุ้นตา เช่นพวกผัดหมี่ ผัดวุ้นเส้น เมนูสารพัดก๋วยเตี๋ยว
หรือใครจะอยากลองเมนูปิ้งๆ ย่างๆ ก็มีของเสียบไม้ให้ได้กินกัน ทั้งแบบซีฟู้ดปิ้งย่าง และสะเต๊ะ (สะเต๊ะอีกแล้ว 555+)
เมนูขาประจำเมื่อพูดถึงอาหารมาเลย์ก็คือเจ้านี่เลย “Nasi Lemak” ข้าวสวยหุงน้ำกะทิ เสิร์ฟมากับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ไก่ทอด หอมเจียว ถั่ว ปลาแห้ง และน้ำพริกสไตล์มลายู
เดินชมบรรยากาศมาสักพักก็เจอคุณป้าคนนี้ ใส่เสื้อมีตราสัญลักษณ์แบบนี้มั่นใจเลยว่าคุณป้าเป็นคนไทยแน่นอน! ร้านนี้ขายอาหารไทยๆ มีทั้งหอยทอด ผัดไทย แกงต่างๆ อีกเพียบ คนแน่นด้วยนะเออ! อาหารไทยนี่โกอินเตอร์จริงๆ
โซนนี้มีร้านอาหารไทยเพียบ ทั้งลายไทยทั้งธงชาติจัดมาเต็ม 😛
เงินสดใช้ไม่ได้ที่นี่… งั้นรอไร ซื้อคูปองด่วนๆ
จะสังเกตว่าตั้งแต่เราเดินเข้างานมา เรายังไม่ได้ซื้ออะไรกินเลย นั่นเพราะว่าเรายังไม่มีเงินนั่นเอง 555+ สำหรับการซื้อของต่างๆ ในงานนี้ เราจะต้องใช้คูปองเงินสดในการซื้อ ซึ่งสามารถแลกได้ที่ซุ้มหน้าตาแบบในรูป ซึ่ง… คิวยาวมาก
ซุ้มนี้จะรับเงินทั้ง 3 สกุลเงิน คือเงินมาเก๊า ฮ่องกง และจีน โดยใช้สูตรเดิมที่เคยบอกไปข้างบน นั่นคือ 1 MOP : 1 HKD : 1 CNY เราสามารถใช้เงินสดไปแลก หรือจะรูดบัตรเครดิตก็ได้ (แต่เขารับแต่บัตร UnionPay อ่ะ T_T)
ตัวคูปองจะเป็นแผ่นใหญ่ๆ แผ่นนึงมูลค่ารวม $100 ซึ่งก็จะมีคูปองมูลค่าต่างๆ ให้เราใช้ซื้อของได้ สำหรับใครที่สงสัยว่า “อ้าว… ต้องแลกทีละร้อยหรอ อยากซื้อปลาหมึกย่างไม้ละ 20 จะแลกแค่ 20 ได้มั้ย” ทีมงานได้ทดลองให้แล้ว คำตอบก็คือ “แลกได้จ้า” จะแลกแค่ $5 $10 ก็ได้หมด
สังเกตว่ามุมบนขวาจะมีคูปองเกมมูลค่า $5 แถมมาด้วย คูปองนี้เอาไว้เล่นในซุ้มเกม ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูในตอนถัดไปนะ ^^
หาของกินกัน!
เมื่อเรามีเงินแล้ว เราก็มาลุยกันต่อเลยยย หลังจากผ่านซุ้มแลกเงินมาเรียบร้อย ขึ้นบันไดนิดหน่อย ก็จะเข้าสู่พื้นที่หลักของงานนี้ ซึ่งก็จะมีซุ้มต่างๆ เรียงรายเต็มไปหมดเลย
ซุ้มนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าขายอาหารเวียดนาม
ร้านอาหารญี่ปุ่นก็เยอะ แต่ละร้านจัดมาสวยๆ ทั้งนั้น ใครอยากกินซูชิปั้นสดๆ ก็มาลองกันได้ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ $10 เป็นเงินไทยก็ราวๆ 50 บาท
แล้วเราก็มาสะดุดที่ร้านนี้ ด้วยความที่กลิ่นหอมๆ และคนมุงเยอะมากกกก แปลว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ 555+
เมนูเด็ดร้านนี้มีสองอย่างคือปลาหมึกย่างที่พี่เสื้อแดงกำลังบรรจงย่างอยู่ กับเนื้อเสียบไม้ย่างของคุณพี่ผู้หญิง ซึ่งด้วยความสามารถภาษาจีนของพวกเรา (ที่เป็นศูนย์) ตอนนั้นเราจึงไม่รู้ว่ามันคือเนื้ออะไร แต่กลิ่นและหน้าตาน่ากิ๊นน่ากิน ก็เลยจัดมาอย่างละไม้จ้า (ไม้ละ $30)
แถ่นแท้น เมนูแรกของเราในวันนี้ ปลาหมึกนี่ค่อนข้างธรรมดา กินยากเพราะต้องเดินไปกินไป ย่างมาไม่ค่อยสุกด้วยอ่ะ แต่เนื้อทางซ้ายนี่ดีงามมาก นุ่มมม หอมหวาน ตอนกินยังไม่รู้ว่าเนื้ออะไร แต่กลับบ้านมาค้นดูเรียบร้อย มันคือเนื้อแกะคร้าบทั่นผู้ชม ครั้งแรกของผมเลยนะเนี่ยที่ได้กินแกะ >_<
เรียกน้ำย่อยด้วยของเสียบไว้กันไปแล้ว เราออกเดินกันต่อ คราวนี้มาเจอร้านสารพัดซีฟู้ด ที่คุณพี่ย่างให้ดูกันแบบเปลวไฟลุกโชนเลยทีเดียว
จัดหอยแมลงภู่ย่างซอสกระเทียมมา 1 ชุด (2 ตัว) เฉยๆ นะ สงสัยทำมาตากลมไว้นาน แห้งไปหน่อย
อันนี้เป็นสัตว์ทะเลหลายอย่างมาผัดๆๆ รวมกัน ดูแล้วน่าจะกินยาก ขอผ่านนน (นายๆ นายเอาปูไปผัดทั้งกระดองเลยหรออออ)
เรามาหยุดกันที่ร้านนี้ครับ ด้วยเหตุผลเดิม คือ คิวยาว=อร่อย ร้านนี้เป็นสเต็กเนื้อลูกเต๋าสไตล์เทปันยากิ ปิ้งๆ ทอดๆ กันควันโขมง กลิ่นหอมกระชากใจ
หน้าตาเนื้อวัตถุดิบ มีมันแทรกพองาม
หลังจากรอต่อคิวได้ 20 นาที เราก็ได้มาแล้ววว จานนึงมีประมาณ 8 ชิ้นฮะ สนนราคาอยู่ที่ $50 อย่าแปลงเป็นเงินไทยเลยเนอะ 555+ มาชิมกันเลยยย
โห… มันดีงามมากอ่ะ เนื้อนุ่มมาก กัดไปแล้วมีน้ำพุ่งออกมา รสกลมกล่อมแบบแทบจะไม่มีเครื่องปรุงเครื่องหมักอะไรเลย เป็นรสที่ออกมาจากเนื้อจริงๆ จานนี้ให้เก้าเต็มสิบไปเลย หักหนึ่งคะแนนเพราะราคาแพงไปนิสนึง
หลังจากตัวเบากับเทปันเมื่อกี๊ไปแล้ว เราก็เดินกันต่อ มีปลาไหลขายด้วย แต่เราลืมถามราคาแหละ แต่ขึ้นชื่อว่าปลาไหล ราคาไม่ถูกแน่ๆ อิอิ
เดินไปเดินมา รู้สกว่าร้านที่ขายพวกของย่างๆ ทอดๆ โดยเฉพาะพวกของทะเลนี่มีค่อนข้างเยอะนะฮะ แต่ละร้านก็คงมีสูตรของตัวเอง จะลองร้านไหนก็ต้องวัดใจกันว่าจะอร่อยไหม >_< แต่ส่วนใหญ่ก็จะอร่อยนะ เพราะจะมาออกงานเทศกาลอาหารระดับนี้ได้เค้าก็คงต้องตัดมาระดับนึงแล้วแหละ เนอะ
อันนี้น่ากินมากกกก ล็อบสเตอร์อบชีสสส แต่สนนราคาตัวละร้อยกว่าๆ เลยขอผ่านไปก่อน แต่ตั้งเป้าไว้ละว่าทริปนี้ต้องได้กินล็อบสเตอร์แน่นอลล
ข้างๆ กับล็อบสเตอร์ เป็นไส้กรอกที่ราคาจับต้องได้ ไม้ละ $15 จัดมาหนึ่งไม้ อร่อยดีแป้งไม่เยอะ รสเจ้มจ้น
ร้านนี้ขายสแนคของทอด สังเกตว่าร้านต่างๆ ในงานนี้ จะติดป้ายราคาค่อนข้างชัดเจน สามารถดูราคาก่อนตัดสินใจได้ ไม่โกง
ร้านนี้จัดไฟมลังเมลืองมาก แต่ไม่มีรูปสินค้าโชว์ ไม่รู้ว่านางขายอะไร (คนก็ไม่มีมามุงด้วย เราเลยผ่านเช่นกัน) ส่วนรูปล่างเป็นร้านซาชิมิ (ปลาดิบ) จัดหน้าร้านสวยดีฮะ
นอกจากส่วนที่เป็นซุ้มขายอาหารแล้ว ในงานยังมีเวทีกิจกรรมด้วยนะ ใครที่เดินเยอะแล้วเมื่อยๆ ก็มานั่งพักได้ กิจกรรมบนเวทีมีตั้งแต่การแสดงดนตรี มายากล แข่งขันดื่มเบียร์ ไปจนถึงสาธิตการทำอาหาร
อย่างตอนที่เราไปเป็นคิวการแสดงมายากลพอดี
ลืมบอกไปว่าในบริเวณงานเนี่ยจะมีโต๊ะเก้าอี้ให้ซื้อของกินมานั่งกินกันด้วย ซึ่งนอกจากจะมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกันกลางแจ้งแล้ว โซนในร่มมีหลังคาก็มีเหมือนกัน เพราะที่นี่ฝนชอบโปรยลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป เอาแต่ใจจริมๆ
ถ้ากลางคืนคนเยอะไป งั้นมาใหม่พรุ่งนี้ละกัน 555+
ใจจริงอยากกินให้เยอะกว่านี้ อยากอยู่ให้นานกว่านี้ แต่แบบว่าคนเยอะมากกกกก จนเราแทบจะเดินฝ่าไปไหนไม่ได้ บวกกับเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ซึ่งถ้าเที่ยงคืนปิดงานปุ๊บคนต้องทะลักออกมาเป็นสายน้ำแน่ๆ วันนี้เราเลยขอชิ่งออกมาก่อน พรุ่งนี้เราจะมาใหม่ตั้งแต่งานเริ่มตอนบ่ายสามเลย แล้วมาดูกันว่าจะมีอะไรน่ากินบ้าง >_<
สำหรับวันนี้ปิดด้วยของแถม… นมทอด หวานมันหอมอร่อย ถ้วยละ $15 วันนี้ขอลาไปก่อน รอต่อภาคสองคร้าบบบ….