สวัสดีครับ วันนี้มารีวิว ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดไฮโซ แถว ๆ เลียบทางด่วนรามอินทรา อยู่ในซอย โยธินพัฒนา หลัง Chic Republic เลยหาง่ายมาก ร้านนี้จุดเด่นก็คือ ตัวร้านเป็นรูปนกกระเรียน โดดเด่นเป็นสง่า หน้าร้านมีป้ายชื่อเด่น ๆ ว่า “HARU Izakaya & Sushi Bar”
โดยทาง Haru Bangkok ได้เชิญทีมงานไปลองลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นสุดพิเศษของทางร้าน
ร้าน HARU Izakaya & Sushi Bar เป็นร้านที่พึ่งเปิดมาได้ไม่นาน โดยทางเจ้าของอธิบายถึงที่มาของชื่อร้าน “Haru” ว่ามากจากคำว่า ฤดูใบไม้ผลิ ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง โดยฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นนั้น สื่อความหมายว่า เป็นฤดูที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิต เปลี่ยนแปลงอะไรในสิ่งที่ดี ๆ
เมื่อเดินเข้าไปในร้านก็พบกับซูชิบาร์ อยู่กลางร้าน ด้านหลังก็จะมีชั้นวางพวกเหล้าที่นำเข้าจากทั่วญี่ปุ่นมาจัดเรียงรายอย่างสวยงาม ตามสไตล์ Izakaya โดยส่วนตัวชอบการออกแบบของร้านนี้ดีนะ ผนังสีดำผสมกับลายไม้
ร้านนี้มีห้องส่วนตัวประมาณ 2 ห้อง ใครต้องการจองห้องเลี้ยงฉลองกับญาติ ๆ เพื่อนฝูง หรือว่ามากับทางบริษัท ร้านนี้ก็ตอบโจทย์นะ
พอเข้ามาในร้าน ก็รีบสั่งชาเขียวเย็น ๆ เพื่อดับร้อนจากอากาศข้างนอกเลย ชาเขียวเย็นที่นี่เป็นแบบไม่ใส่น้ำตาล ชื่นใจดี
ปลาหมึกแห้งทอดเทมปุระ (Atarime Tempura 169 บาท)
ไม่รอแล้ว หิว มาเริ่มเมนูแรกกันเลย ปลาหมึกแห้งทอดเทมปุระ เสิร์ฟพร้อมกับโชยุผสมมายองเนส เทมปุระที่นี่ถือว่ากรอบอร่อยเลยทีเดียว เมื่อลองกินกับน้ำจิ้ม มันโอเคเลยนะ ได้รสเค็ม เปรี้ยวจากโชยุ ได้รสหวานมันจากมายองเนส เค็มๆ หอมๆ กรอบๆ อันนี้แหละกับแกล้มชั้นดี
สลัดปลาเงินทอด (Shirauo Salad 279 บาท)
ต่อมาเป็น สลัดปลาเงินทอด สลัดชามนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่แป้งกรอบ ๆ ที่โรยหน้าอยู่บนสลัด ก่อนกินเราจะต้องทำการคลุกทุกอย่างให้เข้ากันเสียก่อน เพราะน้ำสลัดจะอยู่ด้านล่าง
รสชาติของสลัดชามนี้ อร่อยเลยชอบ แนะนำให้สั่ง คือได้ความหวานกรอบ จากผักและก็น้ำสลัด และถ้ากินไปพร้อมกับแป้งทอดด้านบนนะ ฟินมาก ใครกลัวอ้วน อยากกินอะไรคลีน ๆ เมนูนี้แนะนำจริง ๆ
หม้อไฟญี่ปุ่นหมูคุโรบูตะ (Kurobuta Nabe 329 บาท)
ต่อมาเป็น หม้อไฟญี่ปุ่นคุโรบูตะ ในหม้อไฟจะมีเครื่องหลาย ๆ เช่น หมูคุโรบุตะ เส้นบะหมี่ เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง กวางตุ้ง ไข่ไก่ ต้นหอม ซึ่งหม้อไฟของร้านนี้จะไม่เหมือนร้านอื่น ๆ ก็คือจะเสิร์ฟพร้อม คอลาเจน ให้สาว ๆ กินแล้วจะได้มีผิวกระจ่างใส วิ้ง ๆ เลย
ถ้าไฟด้านล่างดับ สามารถเรียกพนักงานให้มาจุดได้ เพราะเมนูนี้ จะต้องกินตอนร้อน ๆ ถึงจะอร่อย ส่วนน้ำจิ้ม ก็มีให้ 2 แบบด้วยกัน แบบหวาน กับแบบเค็ม แล้วแต่ใครจะชอบว่าอยากกินรสชาติไหน
มาพูดถึงรสชาติกันบ้าง น้ำซุปหม้อไฟ รสชาติไม่จัดจ้านตามสไตล์ญี่ปุ่น ออกเค็ม ๆ เล็กน้อย ถ้าใครอยากได้รสชาติหวาน เค็ม จัดจ้านมากกว่านี้ ก็ให้ลองจิ้มน้ำจิ้มดู
ปลาดิบรวมชุดกลาง (Sashimi Moriawase/Take 1,399 บาท)
ชุดรวมซาซิมิ ที่เสิร์ฟบนน้ำแข็งจัดได้ดูน่าทานมากกกกก ชุดนี้เป็นปลาดิบชุดกลาง ประกอบด้วย แซลมอนสีส้มสวยงาม ปลาฮามาจิ ปลาซาบะ โอโทโร่ หอยปีนก ปลาหมึก ปูอัด
ปลาดิบของร้านนี้ เป็นปลานำเข้าแบบไม่แช่แข็งมาแล่เองที่ร้านกันสดๆ เรียกได้ว่าซาซิมิของร้านนี้ สด อร่อย คุณภาพดีมาก ทำให้ราคาของซาซิมิชุดนี้อาจจะค่อนข้างสูงตามคุณภาพ เรียกว่าเป็นร้าน Izakaya ที่ไม่ใช่แค่มีเพื่อให้มันครบๆ แต่ว่าคุณภาพก็ดีด้วย
ปลาหมึกโรยด้วยไข่ปลาแซลมอน สวยงาม
อ๊ากกกกก !!! แซลมอนนน เน้น ๆๆๆๆๆ
ส่วนท้องของปลาฮามาจิ สีสันสวยงาม นุ่มมาก จะมีความมันอยู่ในปาก อร่อย
อันนี้เป็นหอยปีกนก หนึบๆ
ชุดเสียบไม้ย่างใหญ่ (Kushi Yaki Moriawase 329 บาท)
อันนี้ก็แปลกอีกเมนูนึง เป็นชุดเสียบไม้ย่าง โดยจะมีหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่ เนื้อไก่ ไข่นกกระทาพันเบคอน เห็ดหอมย่าง เนื้อหมู
รสชาติขอน้ำซอสของร้านนี้ อร่อยมาก มันออกหวาน เค็ม ๆ ข้น ๆ คือกินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว
ชุดนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซ็น ให้ได้จิ้มไป กินกับเนื้อไก่ เนื้อหมูย่าง ก็เข้ากันดีไปอีกแบบ
พิซซ่าญี่ปุ่นสไตล์ฮิโรชิม่า (Hiroshima Okonomiyaki 189 บาท)
ต่อมาเป็นเมนูที่โดยส่วนตัวแล้วชอบมากที่สุด แนะนำให้ทุกคนที่มากินร้านนี้ลองสั่งมาทาน นั่นก็คือพิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ สไตล์ฮิโรซิม่า โดยเจ้าของร้านได้บอกว่านำสูตรนี้ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ความพิเศษของพิซซ่าญี่ปุ่นร้านนี้ก็คือ มีเส้นโซบะอยู่ด้านใต้ด้วย เส้นของที่นี่ เนื้อนุ่ม ไม่เละ ไม่แข็ง นุ่มกำลังดี ด้านล่างเนื้อหมูอย่างดีอร่อย ๆ
และสิ่งที่ชอบที่สุดก็คือ ร้านนี้ราดซอสด้านบนแบบไม่ยั้งจริง ๆ ชอบ ซอสพิซซ่าญี่ปุ่นของเค้า ออกหวานเค็มเปรี้ยว กินคู่กับมายองเนสแล้วฟินมากกกก สูตรนี้ปลื้ม !!!
สเต็กเนื้อไซโคโล (Saikoro Beef Steak 329 บาท)
ต่อมาเป็นสเต็กเนื้อไซโคโลเสิร์ฟแบบกะทะร้อน เนื้อวัวของที่นี่ย่างออกมาได้นุ่มดี ซอสที่ให้มาเข้ากันดี กินแล้วอยากได้ข้าวสวยเลย
ข้าวอบหม้อญี่ปุ่นหมูสามชั้น (Buta Kakuni Kamameshi 349 บาท)
และสุดท้าย เป็นเมนูเด็ดของร้านนี้ นั่นก็คือ ข้าวอบหม้อญี่ปุ่นหมูสามชั้น ชั้น ชั้น ชั้นนนน….(ทำเสียง Echo) เมนูนี้เจ้าของร้านบอกว่าต้องใช้เวลาทำนานเกือบครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะพร้อมสำหรับทาน
สาเหตุที่ใช้เวลานาน เนื่องจากเมนูนี้ ต้องใช้เวลาอบข้าวนาน เพราะจะต้องค่อย ๆ ทำให้สุกนั่นเอง
เมื่อได้ที่แล้ว ก็เปิดฝา สิ่งที่เห็นก็คือ มีเนื้อหมูอยู่ด้านบน วางคู่กับแปะก๊วย เห็ดหอม ด้านใต้ก็จะมีข้าวที่ผ่านการผสมเครื่องปรุงให้มีความหอมไว้เรียบร้อยแล้ว
วิธีรับประทานก็คือ ต้องคลุกทุกสิ่งอย่างในหม้อให้เข้ากันเสียก่อน โดยจุดเด่นของเมนูนี้ก็คือ สามารถแปลงร่างแยกเป็น 3 เมนูได้ คือเราสามารถกินเป็น
- ข้าวอบญี่ปุ่นธรรมดา
- ข้าวยำ
- ข้าวต้ม
การกินแบบแรกนั่นก็คือ การกินเป็นข้าวอบธรรมดา ซึ่งข้าวอบของที่นี่จะแฉะ ๆ เล็กน้อย แต่เมื่อกินเข้าไปแล้ว มันอร่อยอ่ะ ไม่ต้องปรุงรสอะไรก็อร่อยแล้ว รสชาติจะออกเค็มอ่อน ๆ มีกลิ่นหอมมาก เนื้อหมูนุ่มมากจริง ๆ
ต่อมาถ้าใครไม่ชอบข้าวอบแบบธรรมดา ก็สามารถแปลงเป็นข้าวยำสไตล์ญี่ปุ่นได้ ซึ่งในชุดข้าวอบนี้ จะมีสาหร่าย ขิงดองและต้นห้อม ให้เราสามารถกินคลุกเคล้ากับข้าวอบได้
และสุดท้ายก็คือข้าวต้ม โดยในชุดจะมีกระติกน้ำซุปที่เป็นสแตนเลสมาให้เราเทน้ำซุป ลงไปในข้าวอบ โดยปริมาณน้ำซุปก็แล้วแต่คนจะชอบ บางคนชอบแบบคลุกคลิก หรือบางคนจะชอบแบบน้ำท่วมๆเลยก็ใส่ตามที่ชอบ
ส่วนเรื่องรสชาติตอนแรกก็แอบคิดว่า มันจะอร่อยมั้ยนะ ? น้ำนอง ข้าวแฉะขนาดนี้ แต่เมื่อพอกินเข้าไปเท่านั้นแหละ เออมันก็อร่อยไปอีกแบบแฮะ คือน้ำซุปที่แถมมาให้มันกลมกล่อมมาก มันเข้ากันดีอ่ะ กินไปกินมากลับชอบแบบข้าวต้มมากที่สุด 555+
สรุป ร้านอาหารญี่ปุ่น HARU Izakaya & Sushi Bar
ร้าน HARU Izakaya & Sushi Bar เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจริงๆ เจ้าของร้านเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นลองชิมมาแล้วทุกแบบทุกแนว จนออกมาเป็นร้าน Izakaya ที่มีเมนูหลากหลายมาก (กว่า 240 เมนู) และใช้วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยถูกปากเลยทีเดียว
ข้อมูลร้าน
Facebook : facebook.com/harubangkok/
Instagram : HaruBangkok
Line : @HaruBangkok
Website : http://www.harubangkok.com
Tel : 02 515 0058, 098 278 2266
วันทำการ :
จันทร์ – ศุกร์: แบ่งเป็น 2 ช่วง 11:30 – 14:00 น. และ 17:00 – 23:00 น.
เสาร์ – อาทิตย์, วันหยุด เวลา 11:30 – 23.00 น.
ร้านตั้งอยู่เลียบทางด่วนรามอิน