[Review] Meat Bar 31 Destination of Beef Lovers

Goohiw.com ได้มีโอกาสมาทานที่ร้าน Meat Bar 31 ครับ เป็นร้าน Steak House อยู่ในซอยสุขุมวิท 31 สำหรับร้านนี้ต้องบอกว่าเราจะได้สนุกเพลิดเพลินกับการทานเนื้อดีๆ ในแบบที่ชอบ สำหรับคนรักเนื้อขอบอกเลยว่าร้านนี้ไม่อยากให้พลาดนะ

Meat Bar 31 เป็นร้านอาหารแบบกึ่งบาร์ บรรยากาศของร้านค่อนข้างทันสมัยร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว ไฟสีส้ม ดูอบอุ่น สบายๆ ไม่ได้หรูหราเป็นทางการแบบร้านในโรงแรม เป็นร้านที่เราสามารถทาน Steak ดีๆ แบบชิวๆ ไม่ต้องจ่ายแพงในระดับโรงแรมหรู และในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

ใครไปใครมาก็ต้องสะดุดกับเจ้าวัวตัวนี้ที่เป็นลายประดับอยู่บนผนังแน่นอน

เมนูหลักของร้านนี้แน่นอนล่ะว่าเป็น Steak เน้นเมนูเนื้อ และ Side Dish กับเครื่องดื่มที่หลากลาย ทั้งไวน์ เบียร์ ค็อกเทล/ม็อกเทล สำหรับทานคู่กับเนื้อดีๆ เพื่อให้ได้เรื่อราวในการทานหลากหลายรูปแบบ คนที่ชอบเนื้อจะสนุกกับการเลือกรูปแบบการทานเนื้อในแต่ละครั้งที่ได้มาร้านสเต็ก

จะเริ่มสั่งและ ผมแปะเมนูเนื้อไว้หน่อยแล้วกัน ร้านนี้มีเนื้อจากหลายประเทศเลยครับ

Side Dish และ Sauce สำหรับทานกับเนื้อ เพิ่มความสมบูรณ์สำหรับเนื้อแต่ในมื้อนี้

แน่นอนว่าเนื้อดีๆ ต้องคู่กับเกลือและพริกไทยละนะ

เครื่องดื่มจะมีทั้ง ค็อกเทล, วิสกี้, ไวน์และเบียร์นำเข้าจากหลายประเทศสำหรับทานคู่กับเนื้อ มีให้เลือกหลากหลายมากๆ ใครไม่ทานแอลกอฮอร์ก็สั่งเป็นม็อกเทลได้ เมนูที่เป็นน้ำผลไม้ของร้านนี้จะฟรุตตี้มากๆ คือรสเปรี้ยวจี๊ดและมีเนื้อผลไม้ให้มาเยอะเลย

Beef Tartare with Caviar and Egg Yolk (380 บาท) Starter จานแรก เป็นอาหารฝรั่งเศส ใช้เนื้อแดงดิบส่วนสันในหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกกับเครื่องเทศ เกลือ พริกไทย แตงกวาดอง จัดวางเป็นก้อน ด้านบนเป็นคาเวียร์ เสิร์ฟพร้อมไข่แดงดิบ เมนูนี้จะหาทานค่อนข้างยาก เพราะไม่สามารถเตรียมล่วงหน้าได้นาน จึงจะไม่ค่อยเห็นเมนูนี้ตามร้านเสต็กใหญ่ๆ

เมนูนี้จะทานคู่กับไข่แดง คือนำไปคลุกกับเนื้อแล้วทาน บอกเลยว่าผมกับเพื่อนๆ ประทับใจมากเมนูนี้กันมาก เนื้อดิบชิ้นเล็กๆ นุ่มมากไม่เหนียวเลย มีกลิ่นหอมเครื่องเทศรสชาติอมเปรี้ยว มีไข่แดงข้นๆมาช่วยเพิ่มความสมดุลของรสชาติและรสสัมผัส คือโคตรดีครับเพลินมากกกกก

Meat Plate (500 บาท) จานเนื้อเน้นหลากหลายชนิด (Beef Pastrami, Wagyu Sausage, Pancetta, Smoked Duck Breast and Cured Beef Loin) เสิร์ฟพร้อมแตงกวาดองลูกเล็กและมะกอก พวกเนื้อรมควันหอมดีครับ เบคอนจะมีรสที่เข้มจัด เข้ากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีนะ อิอิ

Lobster Macaroni & Cheese (420 บาท) มักกะโรนีล็อบสเตอร์อบชีสสส อีกเมนูที่ทางร้านแนะนำ ตอนยกมาเสิร์ฟได้กลิ่นหอมมาก หน้าตาดูดีมาก

ชีสยืดดดดด ด้านล่างเป็นมักกะโรนี รสชาติเข้มข้นดี ได้ความหอมมันและรสชาติเข้มข้นจากชีส อะไรมีชีสก็อร่อย ฮรืออออออ

Thai Wagyu, Tenderloin (650 บาท) เป็นเนื้อที่เลี้ยงในไทยโดยผ่านการเลี้ยงด้วยวิธีการขุน ชิ้นนี้เป็นส่วนของเนื้อสันใน ซึ่งเป็นส่วนที่กล้ามเนื้อถูกใช้งานน้อย เนื้อจึงมีความนุ่มและกลิ่นที่ดีถึงแม้จะมีไขมันน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ความสุกแบบ Medium Rare คู่กับซอสเกรวี่และมันบด

รสชาติดี นุ่ม เป็นเนื้อไทยที่มีคุณภาพเลย หลายคนอาจมีมุมมองว่าเนื้อวัวไทยเป็นสายพันธุ์ที่ไม่อร่อยนัก แต่จริงๆแล้วบ้านเราก็มีเทคนิควิธีการเลี้ยงมีและมีการพัฒนาสายพันธุ์กันอยู่ต่อเนื่อง จนเราก็มีเนื้อสายพันธุ์ที่ดีและอร่อยอยู่ครับ ไม่ว่าเนื้อจะมาจากไหน อร่อยก็คืออร่อยครับ

Grilled Murraylands, Australian Rack of Lamb with Mash Potato Rosemary Gravy and Mint Sauce (720 บาท) ชื่ออย่างยาวหมดไปแล้วบรรทัดนึง เป็นซี่โครงแกะสายพันธุ์ Australian หมักโรสแมรี่ ราดน้ำเกรวี่ เสิร์ฟพร้อมกับซอสมินท์ จุดเด่นของซี่โครงแกะจะอยู่ที่ความเหนียวนุ่มของเนื้อและมีมันเยอะ เวลาเคี้ยวจะหนึบๆ ทำออกมาดีครับไม่มีกลิ่นสาปเลย ทานคู่กับไวน์จะฟินมากๆ

Australian Grain-Fed, bone-in Tomahawk Cut (2,950 บาท) อีกเมนูทีเด็ดของร้านที่อยากจะเชิญชวนให้มาลองกันเหลือเกิน เนื้อ Australian ส่วนของ Tomahawk Cut ที่เป็นเป็นส่วนของริบอายที่ติดกระดูก เป็นเนื้อชิ้นใหญ่ เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันเยอะอยู่พอสมควรทำให้มีรสชาติที่ดีด้วย ชิ้นนี้มีน้ำหนักหนึ่งกิโลกรัม เหมาะสำหรับทานกับเพื่อนแชร์กัน 3-4 คน

สังเกตผิวด้านนอกของเนื้อจะเกรียมเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดความหอมและรสสัมผัสแบบกรอบๆ เล็กน้อย อันนี้เรียกว่า Crust (ครัสท์) ซึ่งการที่จะทำให้เกิด Crust ที่สวยงามแบบนี้ได้ต้องใช้การย่างด้วยความร้อนที่สูงมาก ในเวลาไม่นาน ซึ่งร้านนี้เค้าใช้หินลาวาสำหรับการทำ Crust ซึ่งเป็นหินที่เก็บความร้อนได้เยอะและปล่อยความร้อนออกมาได้สม่ำเสมอ

เนื้อส่วนนี้สำหรับผมคิดว่ามันจบในตัวแล้ว แค่เกลือพริกไทย เพิ่มลงไปหอมๆหน่อย ก็ฟินโคตรๆ แล้วครับ

Side Dish สำหรับทานคู่กับเนื้อ ร้านนี้ก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะครับ Side Dish นี่ก็เป็นอีกเรื่องราวที่ทำให้ความอร่อยของเนื้อจบแบบสมบูรณ์ ก็ลองดูว่าอยากทานอะไรคู่กับเนื้อแบบไหน เพื่อให้ได้รสชาติและรสสัมผัสแบบลงตัว อย่างเฟรนส์ฟรายซ์ที่นี่จะกรอบๆ ทานตัดกับเนื้อที่นุ่มมากๆ จะเข้ากันดี

หลังจากนี้เป็นเรื่องเล่าสนุกๆ จากเชฟนิกุ ที่เป็นผู้เริ่มต้นและเป็นเชฟของ Meat Bar 31 นี้ ซึ่งทำพวกผมได้ให้แง่คิด, ความรู้ และเรื่องราวๆดีๆ กลับไปด้วย

เชฟนิกุรู้สึกว่าร้าน Steak ดีๆ มักจะอยู่ตามโรงแรมใหญ่ๆ ดูเป็นทางการมากเกินไปถ้าแค่จะต้องการทานเนื้อดีๆสักมื้อหนึ่ง จึงน่าจะดีกว่านะถ้าเราสามารถทานเนื้อดีๆได้ในราคาที่เอื้อมถึงมากขึ้น ได้นั่งคุยกับเพื่อนสังสรรค์กันในบรรยากาศอบอุ่นแบบบาร์ จึงเป็นที่มาของคอนเซปต์ร้าน Steak House กึ่งบาร์อย่าง Meat Bar 31

เชฟนิกุเป็นคนชอบทานอาหาร รักในการทำอาหารตั้งแต่เด็กๆ หลังจากเรียนจบปริญญาตรีคณะบัญชี ด้วยใจรักในอาหารจึงเดินตามความฝัน ด้วยการก็ไปเรียนทำอาหารต่อที่ Le Cordon Bleu ประเทศอังกฤษ หลังจากจบออกมาก็ทำงานในครัวเก็บประสบการณ์กว่าสิบปี เปิดร้านอาหารซึ่งเป็นความฝันของเชฟหลายๆ คน

Meat Bar 31 เป็นที่ที่คนชอบเนื้อจะรู้สึกสนุก

Signature ของร้านนี้คือความหลากหลายของเมนูสำหรับคนรักเนื้อ เชฟบอกว่าในเมนูเนี่ย จิ้มอันไหนก็อร่อยหมดแหละ แต่วันนี้คุณมาแล้วอยากทานแบบไหน อยากทานเนื้อที่มีความนุ่ม เนื้อแบบที่เน้นกลิ่นหอมจัดๆ อยากทานคู่กับไวน์ตัวไหน Side Dish ตัวไหน ซึ่งแต่ละอย่างที่เลือกก็จะมีเรื่องราวของมันอยู่ข้างหลัง

จากคนรักเนื้อ รักในการทำอาหาร เรียนคอร์สทำอาหารจากต่างประเทศ สั่งสมประสบการณ์การทำงานในครัว 10 ปี มาเปิดร้าน Steak House ร้านที่ว่ากันแต่เรื่องเนื้อ แต่ลงลึกในเนื้อแต่ละก้อน Steak แต่ละจานที่เชฟนิกุนำเสนอนั้นมีเรื่องราว จึงอยากเชิญชวนผู้ที่ชอบเนื้อได้มาลองร้านนี้ดูครับ คุณจะรับรู้เรื่องราวและความสุขได้ผ่านเมนู และเนื้อบนจาน