วันนี้เรามีเมนูอาหารเส้นๆ จากญี่ปุ่นที่เด่นไม่แพ้ราเมนหรืออุด้งมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นั่นก็คือ นางาซากิจัมปง จาก Ringer Hut นั่นเอง
Ringer Hut ร้านนางาซากิจัมปงชื่อดังที่มีสาขาอยู่ที่ญี่ปุ่นมากกว่า 700 สาขา และเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำจัมปงเข้ามาขาย
ด้วยเอกลักษณ์ของจัมปงที่ให้รสสัมผัสแตกต่างจากราเมนและอุด้ง จึงทำให้หลายคนติดใจในความเหนียวนุ่มและขนาดเส้นที่กำลังพอดี ใช้เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่สดใหม่ดีต่อสุขภาพ
ริงเกอร์ฮัทในไทยควบคุมคุณภาพของทุกวัตถุดิบ เหมือนว่าเราได้บินลัดฟ้าไปกินถึงญี่ปุ่นนู่นน ร้านเค้า Import วัตถุดิบเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเส้นจัมปง น้ำซุปที่ใช้ หรือแม้กระทั่งกะหล่ำปลี (กะหล่ำปลีญี่ปุ่นอร่อยอ่ะ ไม่เหม็นเขียวเลย)
ที่ไทยมีทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาเกตเวย์ เอกมัย สาขาเค วิลเลจ และสาขาที่เรามากินในวันนี้คือ สาขาพร้อมพงษ์ อยู่ติดกับ BTS พร้อมพงษ์ เดินมาทางออกที่ 4 ก็จะเห็นป้ายร้าน อยู่ติดกับเอ็มโพเรียมเลย
บรรยากาศภายในร้านที่สาขาพร้อมพงษ์จะมีสไตล์การตกแต่งเหมือนที่นางาซากิเด๊ะ คือเป็นกำแพงอิฐ ร้านโทนสีแดง–น้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร้านไม่ได้กว้างมากแต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย เพราะตีเพดานสูงทำให้รู้สึกโล่งและโปร่ง
ร้านนี้เป็นครัวเปิดด้วยนะ
ร้านนี้เข้าใจหัวอกคนไทยว่าเป็นนักปรุง จึงมีเครื่องปรุงตั้งมาให้เต็มเลย ใครอยากเติมรสชาติอะไรก็จัดไปจ้า
ยาไซ ทัปปุริ จัมปง (278 บาท)
ทันที่ที่ชามนี้มาเสิร์ฟก็ต้องอุทานออกมาว่า “มันใหญ่มากกกกก(โว้ย)!!” เมนูนี้เอาใจคนรักผักหน่อยนะ เพราะจัดหนักจัดเต็มทั้งกะหล่ำปลี ถั่วงอก แครอท ข้าวโพด เห็ดหูหนู สำหรับเนื้อสัตว์ก็เป็นกุ้งและหมู
จุดเด่นของเค้าคือเส้นจัมปงจากญี่ปุ่น ที่เหนียวนุ่มและลื่นมากคีบแล้วไหลจากตะเกียบตลอดเลย #น้องท้อ แต่พอได้กินแล้วก็สมกับความพยายามของน้องงง ส่วนน้ำซุปกระดูกหมู รสชาติกลมกล่อม มีความหวานเล็ก ๆ ติดปลายลิ้น ซดน้ำกันไปอย่างเพลินๆ
เมนูนี้มีขิงปั่นมาด้วย (ไม่รู้จะเรียกน้ำจิ้มหรือเครื่องเคียงดี) ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใส่เข้าไปในชามก็เพิ่มความกลมกล่อม เราแอบตักกินเปล่าๆ ก็ตัดเลี่ยนได้ดีนักแล
จัมปงแห้งหน้าเนื้อหมูผัดซอส (159/219 บาท)
เมนูนี้กินแล้วอยากจะปล่อยสายรุ้งออกมาจากปาก บอกเลยเด็ดมากกกกก เป็นจัมปงแห้งที่มีน้ำซอสขลุกขลิก รสชาติกลมกล่อม เค็มๆ หอมๆ เส้นจัมปงก็ซึมซับน้ำซอส เวลาเคี้ยวก็จะได้รสสัมผัสนุ่มๆ หนึบ
ที่สำคัญคือหมูสามชั้นที่ให้มาชิ้นใหญ่สุด ๆ และเยอะมว๊ากกกก มันที่แทรกระหว่างเนื้อหมูทำให้ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน รู้ตัวอีกทีก็หมดชามแล้วแหละ
เกี๊ยวซ่า (130 บาท)
ตอนแรกที่มองภายนอกก็ดูเหมือนเกี๊ยวซ่าทั่วไป แต่พอกัดเข้าไปเท่านั้นแหละ เฮ้ย อร่อยอ่ะ แป้งดีมาก นุ่มและบางสุด ๆ แถมไส้ยังฉ่ำ ๆ อร่อยมากด้วย รสกลมกล่อม กินได้เรื่อยๆ เพลิน
เกี๊ยวซ่าที่นี่มีจุดที่เซอร์ไพร์สคนกินอย่างเราคือ เสิร์ฟพร้อมกับส้มยูซุบดกับพริกไทย (เห็นพนักงานที่ร้านเรียกว่า ยูซุโคะโชว) ที่หน้าตาดูเหมือนน้ำพริกหนุ่ม แต่รสชาติไปคนละทางเลยจ้า รสของอันนี้จะออกเค็มๆ เปรี้ยวๆ มีความเผ็ดหน่อยนึง ใส่ผสมลงไปในน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่า เพิ่มมิติให้กับเกี๊ยวซ่าได้ดี
เกี้ยวซ่าที่นี่จะเลือกทานได้สองแบบ จะจิ้มน้ำจิ้มเกี้ยวซ่า พร้อมโรยน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น และน้ำมันงา (รายุ) เพิ่มความหอม ที่มีให้บริการในถาดเครื่องปรุงบนโต๊ะก็ได้
อีกหนึ่งวิธีที่การทานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะริงเกอร์ฮัท ทั้งญี่ปุ่นและไทย คือ จิ้มเกี้ยวซ่าทานเปล่าๆกับยุซุโคะโชว เพราะถ้าใส่ยูซุโคะโชวที่เค็มอยู่แล้วไปกับน้ำจิ้มเกี้ยวซ่าที่ออกรสเค็ม จะเค็มเกินไป
***ภาพด้านล่างนี่คือวิธีการที่ผิด เพราะตอนแรกไม่รู้หง่ะ แหะๆๆ
ข้าวหน้าเนื้อวัว ราดไข่ดิบ (224 บาท)
เวลาจะกินข้าวหน้าเนื้อที่โป๊ะไข่ดิบมา เราต้องเจาะไข่แดงให้ไหลเยิ้มแล้วก็คลุกๆๆ ให้ทุกอย่าง ทั้งข้าว เนื้อ หอมใหญ่และขิงดองเคลือบไปด้วยไข่แดง จากนั้นให้กินทุกอย่างเข้าไปพร้อมกัน อ่าห์ ฟินน รสชาติกลมกล่อมมากก ไข่ดิบไม่คาวเลยแม้แต่นิดเดียว
เนื้อคือเดอะเบสท์ในจานนี้ เพราะให้มาชิ้นใหญ่โต ปริมาณพูนจาน เนื้อนุ่มดี ไม่เหนียว
ข้าวผัด (139 บาท)
ข้าวผัดไข่สไตล์ญี่ปุ่น ที่ใส่คามาโบโกะหั่นเต๋าลงไปด้วย (ลูกชิ้นปลาสีขาวชมพูนั่นเอง) เป็นเมนูง่ายๆ แต่ก็ทำออกมาได้ดี ข้าวผัดไม่แฉะ ไข่เป็นก้อนนุ่มกำลังดี รสจะจัดไปสักหน่อย แต่ถ้าชดมิโซะไปด้วยก็ช่วยทำให้รสอ่อนลงได้อยู่
จริงๆ เมนูนี้เป็นเมนูสำหรับเด็กที่เข้ามากินที่ร้านนะ แต่อยากลองส่วนตัว เลยแอ๊บเด็กลองสั่งนิสนุง หุหุ
หากครอบครัวไหนพาเด็กๆ มาด้วย ทางร้านก็จะแจกสมุดภาพระบายสีให้เด็กๆ ได้มีอะไรทำระหว่างรออาหาร ซึ่งสมุดระบายสีก็น่ารักม๊ากกก
สรุปรีวิวร้าน Ringer Hut
- ร้านจัมปงเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่แย่งซีนราเมนและอุด้งไปได้อย่างสวยงาม
- เส้นจัมปงดีงามพระรามเก้าสุด ๆ เส้นเหนียวนุ่ม หนึบ ทำให้เราปันใจจากราเมนและอุด้งมาหาจัมปงกันเลยทีเดียว
- วัตถุดิบสดและดีมาก โดยเฉพาะกะหล่ำปลีที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ทั้งหวานทั้งกรอบ แถมไม่เหม็นเขียวแม้แต่นิ้ดเดียวว
- รสชาติอาหารกลมกล่อมและเข้มข้น ปรุงรสได้ถูกปากคนไทย แถมปริมาณก็เยอะ ควรมาทานหลายคนจะได้สั่งหลากหลายมากขึ้น
- ราคาถือว่าไม่แรงนัก คุ้มค่ากับปริมาณและคุณภาพ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : https://www.facebook.com/ringerhut.th/
- Website : http://ringerhut-thailand.com/rh/index.html
- Tel
- 02-258-4360 (สาขาพร้อมพงษ์)
- 02-187-4135 (สาขาเกตเวย์ เอกมัย)
- 02-665-6470 (สาขาเค วิลเลจ)