SO asean Cafe & Restaurant เป็นร้านอาหารอาเซียนที่เพิ่งเปิดใหม่ อยู่ที่ The Street รัชดา ความเจ๋งคือที่นี่เค้ามีเมนูเด่นๆของแต่ละประเทศในอาเซียนให้สั่ง คือมาที่นี่ที่เดี่ยวจะได้ลองเมนูประจำชาติทั้งโซนอาเซียนเลย
เข้าไปในร้านจะสะดุดตากับของที่ใช้ประดับด้วยร้าน เป็นของพื้นเมืองต่างๆ อย่างตะกร้าสาน เครื่องดินเผา บรรยากาศแบบอาเซียนสุดๆ
ร้านจะแบ่งเป็นสองโซนครับ โซนสำหรับร้านอาหาร จะอยู่ในตัวห้าง เปิด/ปิด ตามเวลาห้าง บรรยากาศสบายๆ กว้างขวาง เพดานสูง แม้ช่วงลูกค้าเยอะก็ไม่รู้สึกอึดอัด ชอบตรงที่มีโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกหลายแบบเลย
อีกโซนหนึ่ง เป็นโซน Cafe เครื่องดื่มต่างๆและขนมหวาน โซนนี้จะแยกกับตัวห้าง เป็นหนึ่งในร้านของห้างนี้ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตามคอนเซปต์ของ The Street “ชีวิตไม่ยึดติดกับเวลา” ซึ่งเมื่อก่อนแถวนี้มีร้าน Cafe เปิดตอนกลางคืนน้อยมากครับซ้ำๆเดิมๆ ตอนนี้ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่สำหรับมนุษย์สายอยู่ดึก (ซึ่งก็คือผมเนี่ย ลูกค้าเลย)
ในร้านเค้ามี iPad ให้สไลด์ดูพวกเมนู, โปรโมชั่น และข้อมูลต่างๆด้วยครับ เกร๋ๆ เมนูเค้าทำรูปเมนูสวยดีนะ ชอบ
เริ่มสั่งละคร้าบบ
กาแฟดริปเวียดนามแบบร้อน (90 บาท)
ใครเคยไปเวียดนามจะพบร้านส่วนใหญ่ที่เค้าจะชงกาแฟด้วยเครื่องมือที่ดูแปลกตา (ผมไม่เคยไปนะ เปิด google อ่านมา) เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเค้าเลย เป็นกาแฟดริปที่มีกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว เห็นแล้วอยากหาซื้อไปใช้ที่บ้านเหมือนกัน
น้ำเชื่อมและนมข้นหวาน สำหรับเติม เพื่อความหวานมัน อันนี้ผมลองแบบใส่นมข้นหวานไปเล็กน้อย
จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำร้อนลงในแก้วที่มีกาแฟคั่วบด
ตัวน้ำร้อนจะค่อยๆไหลผ่านกาแฟและตัวกรองลงมา ทีละหยด ทีละหยด ฮิปสเตอร์ฝุดๆ
กาแฟดริปเวียดนามจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ อธิบายยากอยู่ไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไรนะ ถ้ามาลองจะรู้ครับ รสชาติความหวานอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเติมน้ำเชื่อมและนมข้นหวานตามชอบ ค่อยๆลองใส่ดูก็ได้ ปกติผมชอบดื่มกาแฟดำนะ แต่วันนี้ลองแบบเติมนมข้นหวานลงไปนิดนึงก็ได้รสชาติอีกแบบ หอมอร่อยดี
กาแฟร้อนบาจิเกอร์ (95 บาท)
แก้วนี้เป็นกาแฟสัญชาติอินโดครับ เป็นกาแฟที่มีส่วนผสมหลักค่อนข้างประหลาดนิสนึง คือใส่กะทิ และขิง แก้วนี้ของเพื่อนผมสั่งมาครับ แอบลองจิ๊กมาชิมดู ตอนแรกก็กลัวว่ารสชาติจะ surpise เพราะด้วยส่วนผสมของมัน แต่กลับหอมนุ่ม ทานง่ายและอร่อยกว่าที่คิดมากครับ กาแฟจะเบาๆคล้ายลาเต้ และมีกลิ่นของของกะทิและขิงชัดเจน
กาแฟบาร์จิเกอร์จะมีเฉพาะสูตรร้อนนะครับ เนื่องจากเป็นกาแฟที่ดื่มในภูมิประเทศที่เป็นเกาะของอินโดเค้า ซึ่งมีอากาศหนาว เครื่องดื่มที่มีความเผ็ดร้อนของขิงก็เหมาะเลยแหละ
ก๋วยจั๊บญวนหมูย่าง (135 บาท)
เปิดด้วยเมนูนี้ก่อนเลยครับ เพราะทิ้งไว้นานแล้วเดี๋ยวเส้นก๋วยจั๊บมันจะติดกันเป็นก้อน เป็นก๋วยจั๊บญวนหมูย่าง เมนูนี้สัญชาติเวียดนาม โดยเริ่มต้นเค้าจะใส่น้ำซุปมาให้แบบขลุกขลิก แต่ถ้ารู้สึกว่าน้ำซุปน้อยไปสามารถเติมได้ เค้ายกมาเสิร์ฟมาให้ทั้งกาเลย
เครื่องเคียงครับ
หน้าตาและกลิ่นหอมยั่วยวนมาก นี่เขียนไปกลืนน้ำลายไป
เส้นเหนียวนุ่มดีครับ ซดร้อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียวที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้ ด้านน้ำซุปผมว่าถ้ารสเข้มมากกว่านี้อีกสักนิสจะอร่อยเลยนะ แนะนำให้ใส่หอมเจียวเพิ่มลงไปครับ หอมอร่อย
หล่าเพ็ด (135 บาท)
หล่าเพ็ด (ยำสลัดใบชา) จานนี้เป็นอาหารประจำชาติของเมียนม่า ส่วนประกอบหลักจะคล้ายกับเมี่ยงคำบ้านเราแต่จะปรุงรสเป็นยำ มีกระเทียมเจียว หอมเจียว หอมแดงสด ถั่วลิสง งาขาว ขิง มะพร้าวคั่ว ด้านตรงกลางจะเป็นยำที่คลุกรวมทุกอย่างและปรุงรสชาติไว้เรียบร้อย วางเครื่องเคียงต่างๆเพิ่มไว้รอบๆ ด้านล่างเป็นใบชะพลู สามารถทานคู่กับยำได้
หลังจากชิมแล้วผมกับเพื่อนมองตากัน เห้ย เออ อร่อยว่ะ รสชาติยำกลมกล่อมมาก เผ็ดกำลังดี หอมพวกเครื่องต่างๆ เป็นเมนูที่อร่อยเกินหน้าของมันตาครับ ยิ่งกินยิ่งชอบ ติดใจเลย แนะนำเลยเมนูนี้หล่าเพ็ด ใครได้มาแนะนำให้ลองสั่งดู
คือร้านนี้เค้าจะปรับรสชาติและส่วนผสมบางอย่างให้เข้ากับลิ้นของคนไทยนะครับ เพราะอาหารบางอย่างของเพื่อนบ้านเราจะทานค่อนข้างยาก ไม่งั้นอาจมี surpise ในรสชาติกันได้ เช่น ออริจินอลของอาหารเมียนม่าเค้าจะปรุงหนักด้วยผงชูรสแบบจัดเลยครับ ใครไปเมียนม่ากลับมาก็จะผมบางลงไปกันบ้าง(หลอกๆ)
นาซิเลอมัก ข้าวอัญชัน (165 บาท)
นาซิเลอมัก เป็นอาหารประจำชาติของมาเลเซีย และเป็นที่นิยมในเพื่อนบ้านบริเวณนั้นรวมถึงทางภาคใต้ของไทย จุดเด่นของจานนี้คือข้าวมันครับ โดยเค้าจะนำข้าวไปแช่ในกะทิ และนำกะทิไปผสมตอนนึ่งอีกส่วนหนึ่ง บางสูตรอาจมีเครื่องเทศ หรือสมุนไพรต่างๆผสมลงไปเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ดี
ซึ่งร้านนี้เค้าใช้อัญชันผสมลงไปในข้าวครับ และใช้กะทิน้อยลงมาจากสูตรของที่มาเล ถ้าเป็นออริจินอลของเค้าข้าวจะมีกลิ่นกะทิจะแรงมากเลย เครื่องเคียงของอาหารมาเลจะมีพวกถั่วลิสง มะพร้าวคั่ว ปลากรอบ
และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซัมบัล ลักษณะคล้ายน้ำพริก มีรสเค็มและเผ็ดกลิ่นหอมเครื่องแกง แทบทุกครั้งที่ทานอาหารมาเลจะมีซัมบัลเสิร์ฟมาให้ด้วย เป็นเครื่องเคียงหลักของอาหารมาเล ประมาณน้ำปลาพริกบ้านเรากับอาหารตามสั่งล่ะครับ
เสิร์ฟทานกับไก่ทอดส่วนสะโพกติดน่อง โดยรวมแล้วรสชาติอร่อยดีนะครับ ตัวไก่ทอดก็ทำได้ดีเลย กรอบนอกนุ่มใน
ข้าวจี่หมูย่าง แจ่วเวียงจันทน์ (165 บาท)
เมนูจานนี้จากเวียงจันทน์ ประเทศลาว เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดเรานี่เองครับ เป็นข้าวจี่ชุบไข่ กินกับหมูย่าง (สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นหมู/เนื้อ) และแจ่วลาว
ข้าวจี่เมนูนี้อร่อยมากครับ ติดใจ ข้าวจี่ที่เราคุ้นเคยอาจจะเป็นข้าวย่างทาไข่บางๆ แต่นี่มาแบบชุบไข่ฟูๆกรอบๆเลยครับ เหอๆ อย่อย
ตัวหมูย่างหอมดี รสชาติใช้ได้ เสียดายแห้งไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าใช้ได้อยู่ครับ
แจ่วลาวหอมๆเผ็ดๆ รสชาติเข้ากับข้าวจี่และหมูย่างมากๆ
โทสไอศกรีมชาเย็นเมอแรง (165 บาท)
จบมื้อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยของหวานหน่อยครับ โทสชาไทย หน้าตาสวยงาม น่าถ่ายรูปอัพลง IG อย่างมากมาย ด้านบนตัวโทสเป็นเมอแรงค์ภายใต้เมอแรงค์นั้นเป็นไอติมรสชาไทย โรยน้ำตาลไอซ์ซิ่ง เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสชาไทย และวิปครีม
ราดซอสชาไทยลงไป เยิ้มๆ เยิ้มๆ
ชำแหละ หุหุหุ
ที่ชอบที่สุดของเมนูนี้คือไอติมชาไทยครับ หอมเข้มข้นอร่อยมากโดนสุดๆ ตัวโทสชุ่มเนยกำลังดี ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เป็นอีกเมนูที่อร่อยเลย
สรุปรีวิว SO asean Cafe & Restaurant
- เป็นร้านที่จบ ครบทุกเมนูของอาหารอาเซียน ภายในร้านเดียวได้ลองเมนูเด่นๆครบทุกชาติ
- รสชาติอาหารไม่ได้เป็นออริจินอลจากประเทศเพื่อนบ้านนะ แต่จะเป็นรสชาติที่ปรับให้เข้ากับลิ้นของคนไทย
- ร้านตกแต่งสวย นั่งสบาย บรรยกาศดีมาก
- ติดใจหล่าเพ็ดแหะ
- เป็นร้านที่เมนูเยอะ ทั้งของคาวและของหวาน แต่ก็คุมคุณภาพและรสชาติแบบเอาอยู่ แจ่มครับ
- เป็นร้านที่มาซ้ำอีกแน่นอน มีอีกหลายเมนูที่อยากลอง
ข้อมูลร้าน SO asean Cafe & Restaurant
Facebook : www.facebook.com/SOasean
Tel : 02 121 1909
แผนที่ : The Street รัชดา ลง MRT ศูนย์วัฒนธรรมแล้วเดินมาประมาณ 500m อยู่ตรงข้ามตึก Cyber World