The Coffee AcademÏcs เป็นร้านกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากฮ่องกง ได้รับการยอมรับจากคอกาแฟ จนมีสาขามากมายกว่า 10 แห่งทั่วโลก และร้านนี้ก็มาตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน
ความน่าสนใจของ The Coffee AcademÏcs
- ในร้านมี selection ที่หลากหลาย ทั้งเมล็ดกาแฟและเมนูเครื่องดื่ม คนชอบดื่มกาแฟจะสนุกที่ได้ลองนั่นนี่
- ในสาขาทั่วโลกแต่ละแห่งจะมีเมล็ดกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
- แต่ละเมนูมีการคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภค ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และรสชาติไม่หวานมาก
- เมนูและการตกแต่งร้านจะมีกลิ่นอายความเป็นเมืองในฮ่องกงอยู่ด้วย
- เลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ได้รับคะแนนการ cupping จากนักดื่ม 85 ขึ้นไปเท่านั้น โดยรับมาจากเกษตรกรโดยตรง
ครั้งนี้ผมมานั่งที่สาขาหลังสวน โครงการ Velaa Sindhorn Village ใกล้ BTS ราชดำริ ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ The Coffee AcademÏcs มาเปิดที่เมืองไทย
บรรยากาศภายในร้านจะค่อนข้างโล่ง ชิว สบาย รอบด้านเป็นกระจกทำให้ร้านสว่าง ถ่ายรูปสวยดี ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราจะเห็นสีเขียวสีน้ำตาลทั่วร้านเลย
มีการใช้กระเบื้องโมเสกที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของรถไฟใต้ดินที่ฮ่องกง
รุ่นพี่ blogger ผมที่มาทานเค้าบอกว่านอกจากกาแฟแล้ว ขนมของที่นี่ก็โดดเด่นเช่นกัน เดี๋ยวต้องลองครับ
เมนูซิกเนเจอร์ของ The Coffee AcademÏcs
สำหรับใครที่มาลองครั้งแรก แนะนำให้ลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของเค้าก่อนได้ครับ เป็นกาแฟดริปเย็นที่เสิร์ฟในแก้วไวน์ ใช้เมล็ดกาแฟ Kenyan caracoli เลือกสั่งได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น (ผมแนะนำแบบเย็นครับ เสิร์ฟได้น่าสนใจดี)
เค้าจะมีการเลือกใช้รสชาติต่างๆ จากวัตถุดิบแต่ละภูมิภาค มาเล่นกับแต่ละเมนูได้น่าสนใจเลยครับ
Manuka (200 บาท)
ลาเต้ที่ใช้น้ำผึ้งมานูก้า แท้ๆ จากประเทศนิวซีแลนด์ ก็คือผึ้งที่นั่นจะนำน้ำหวานมาจากต้นมานูก้า จะได้ความหอม นุ่มละมุน น้ำผึ้งจะไม่ได้ชัดมากในครั้งแรก แต่จะทิ้งกลิ่นหอมเอาไว้ตอนท้าย หรือหลังจากดื่มน้ำเปล่าตาม เพลินมากครับ
Okinawa (200 บาท)
อันนี้จะออกแนวคาปูชิโน่ครับ มีฟองนมด้านบนด้วย จุดเด่นคือความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำตาลทรายแดงที่มาจากโอกินาวา รสชาติจะเกือบๆ ไปทางคาราเมลมัคคิอาโต้นิดนึง เค้าบอกว่าเป็นเมนูขายดีของร้านครับ
Agave (200 บาท)
ความหวานของเมนูนี้มาจากต้นอะกาเว ประเทศแมกซิกัน หน้าตาคล้ายต้นว่านหางจระเขร้ พร้อมกับเครื่องเทศและพริกไทยดำ คือมีกลิ่นเครื่องเทศในกาแฟชัดเจนมาก พร้อมกับรสเผ็ดปลายลิ้นนิดๆ
แก้วนี้ให้ความรู้สึกที่ตื่นเต้นและแปลกใหม่ดี ส่วนตัวผมชอบเมนูนี้สุดเลยนะ
Java (200 บาท)
แก้วนี้จะได้ความหวานจากน้ำตาลโตนดจากอินโดนีเซีย พร้อมกับกลิ่นหอมใบเตยอ่อนๆ ผมว่าแก้วนี้จะออกไปทางของหวานนิดหนึ่งครับ หลังจากคนให้เข้ากันแล้วดื่ม ความหอมหวานน้ำตาลโตนดจะโดดเด่นมากๆ น้องผมที่มาด้วยกันถูกใจมาก
Japanese Yuzu Cake (250 บาท)
เค้กส้มยูซุสไตล์ญี่ปุ่น ราคาขนาดนี้ก็ต้องคาดหวังกับรสชาติอ่ะนะ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยครับ ดีม๊ากกกกก
ตัวเนื้อเค้กนุ่มละมุน มีรสหวานเบาๆ ด้านในเป็นไส้ ออกแนวเป็นแยมที่มีรสเปรี้ยวโดด และหอมยูซุมากกกก เป็นรสชาติที่คู่ควรกับอเมริกาโนร้อนหรือเย็นสักแก้วครับ
เมนูนี้แนะนำครับ
Pour Over – Panama Esmeralda Gesha
นอกจากเมนูกาแฟทั่วไปและเมนูซิกเนเจอร์แล้ว ทางร้านก็จะมีการชงแบบ Pour Over หรือกาแฟดริปด้วยครับ สำหรับผู้ที่ชอบดื่มดำรสชาติของกาแฟแบบคลีนๆ นั่งจิบชิวๆ
โดยจะมีเมล็ดให้เลือกเยอะม๊ากกกกกก จากหลากหลายประเทศ (ตอนผมไปทานมี 12 ตัว) พร้อมมี taste note ในเมนูด้วย หรือชอบทานแบบไหนก็แจ้งบาริสต้าได้เลยครับ
เสิร์ฟกาแฟพร้อมการ์ดบอกข้อมูลของเมล็ดกาแฟทั้ง taste note, แหล่งที่มา, วิธีการ process
ยิ่งร้านที่มีเมล็ดให้เลือกเยอะ เราก็จะได้สนุกกับการลองรสชาติของกาแฟจากหลายที่มา
Espresso Butter On Fluffy Pancakes
เมนูแพนเค้กท็อปด้วยผลไม้และธัญพืชแบบตู้มต้าม พร้อมกับน้ำผึ้งเพิ่มความหวานหอม ตัวเทกเจอร์ของแพนเค้กทำได้ดีมากเลย ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มฟู เหมาะสำหรับทานกับกาแฟรสเข้มๆ
Hong Kong Style Bubble Waffle
วาฟเฟิลสไตล์ฮ่องกง โรยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สด ได้รสเปรี้ยวตัดหวาน ท็อปด้วยไอศกรีม เพลินๆ ดีครับ
Sipping Chocolate (120 บาท)
ช็อกโกแลตร้อนที่ใช้โกโก้จากฝรั่งเศส มีความเข้มข้นปานกลาง รสชาติหวานน้อย แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรเด่นเท่าไรครับ
Citrus Rooibos (200 บาท)
อันนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผมประทับใจเลย เป็นชาแดง red rooibos นำมาหมักผสมกับผลไม้ซิตรัสอย่างส้ม มะนาว เสิร์ฟพร้อมส้มและมะนาวที่เบิร์นไฟพร้อมน้ำตาล เวลาทานเค้าจะแนะนำให้ใส่ผลไม้ลงไปในแก้ว เพิ่มความหอม
หอมอร่อยมากกกก ชาแดงเข้ากับความหอมของส้มและมะนาวมากๆ ช่วยชูรสชาติของตัวชา โดยที่ไม่มีอะไรเด่นแซงกัน เมนูนี้จะไม่หวานเลยนะครับ แต่ก็มีไซรัปให้สำหรับใครที่อยากได้รสหวาน
หากคุณไม่ดื่มกาแฟ หรืออยากหาชาแนวฟรุตตี้รสชาติไม่หวาน เมนูนี้แนะนำมากๆ
Dirty (150 บาท)
เมนูกาแฟที่เสิร์ฟเป็นนมเย็นเข้มข้น ด้านบนเป็นเอสเปรสโซช็อตอุ่นๆ เวลาทานเราจะได้สัมผัสที่แยกกันทั้งสองเลเยอร์อย่างชัดเจน
ส่วนตัวผมว่า Dirty ของที่นี่เฉยๆ ครับ ทานได้ แต่ไม่โดดเด่นถ้าเทียบกับเมนูตัวอื่น
The Academics Breakfast (480 บาท)
นอกจากกาแฟและขนม เค้ายังมี all day breakfast ด้วยนะครับ
(เมนูซ้ายมือ) เมนูอาหารเช้าจานใหญ่เบิ้ม ไข่ดาว ซอสเซส สลัด เบคอน ขนมปัง ผักย่าง เรียกว่าเป็นมื้อเช้าที่จัดเต็มมาก แนะนำให้แบ่งทานสัก 2 คนกำลังดีนะ ซอสเซสอร่อยดี หนังกรอบ หอมพริกไทย
Hong Kongie Style Breakie (150 บาท)
ร้านจากฮ่องกงอ่ะเนอะ เค้าก็มีเมนูโจ๊กสไตล์ฮ่องกงด้วยครับ ด้วยความที่เป็นร้านกาแฟผมเลยไม่ได้คาดหวังมาก แต่รสชาติดันอร่อยถูกปากผมเลย
เป็นโจ๊กเนื้อละเอียดปานกลาง หมูสับปรุงรสได้หอมอร่อยมาก คลุกกับโจ๊กแล้วทานได้เลย ไม่ต้องเหยาะซอสเพิ่ม
โดยรวมแล้วก็เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่น่าสนใจเลยครับ คนที่ชอบทานกาแฟจะสนุกกับการได้ลองเมล็ดกาแฟระดับโลกหลากหลายแบบ
ราคาอาจจะแรงในบางเมนู แต่สำหรับกาแฟ ผมถือว่าคุ้มค่าครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- The Coffee AcademÏcs หลังสวน โครงการ Velaa Sindhorn Village ใกล้ BTS ราชดำริ
- เปิด : 7 am – 8 pm
- Facebook : facebook.com/TheCoffeeAcademicsTH
- Google Maps : https://g.page/velaa-sindhorn-village?share
- สาขาอื่นๆ
- Gaysorn Tower
- Central World, 2 Floor