Tokyo Yakiniku Shoutaian (อ่านว่า โชไทอัน) ร้านเนื้อชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงจากเมนูแฮมเบิร์กนุ่มจนดื่มได้ เคยมาออกบูธในงาน EAT MEAT FEST หน้า MBK แล้วได้รับผลตอบรับที่ดี ขายดิบขายดีแบบเวอร์วัง
วันนี้ร้านเค้ามาเปิดแบบจริงจังที่บ้านเราแล้วครับ อยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม Hotel Nikko (โซน Ginza Thonglor) สุขุมวิท 55 ห่างจาก BTS ทองหล่อ 200 เมตร โดยเค้าจะมีทั้งเมนูแบบ A La Carte, Set Lunch และแบบ Omakase Course หลายราคา (2,200++ / 3,200++ / 3,600++)
ครั้งนี้ผมมาจัดคอร์ส Shoutaian (โชไทอัน) ในราคา 3,200++ ที่น่าสนใจคือ เนื้อทุกตัวในคอร์สนี้ เป็นเนื้อ Wagyu Kuroge หรือวัวพันธุ์ขนดำ เกรด A5 ซึ่งก็ดูแล้วน่าจะเป็นคอร์สที่ลงตัวที่สุดสำหรับผมล่ะ
อันนี้โคตรเจ๋ง เป็นเตาถ่านจำลองที่เหมือนจริงมากกกกกก เค้าใช้ไฟสีแดงฉายไปที่เครื่องพ่นไอน้ำคล้ายไอน้ำจากเตารีดอ่ะทำให้เหมือนเปลวไฟ พร้อมกับมีลำโพงเสียงไม้แตกตอนโดนเผา คือจริงจังกับการ decoration ตรงนี้มาก 5555
ด้านในก็จะเป็นโต๊ะแบบเรียบหรูสไตล์ร้านญี่ปุ่นแบบ fine dining บรรยากาศค่อนข้างเป็นส่วนตัว และมีห้องที่กั้นแบบส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงด้วย ก็แจ้งเค้าตอนจองได้
เดี๋ยวมาเริ่มกันเลยครับ แอบถ่ายที่ว่างตะเกียบรูปน้องวัวสีทองมาหน่อย ตัวจิ๋วน่ารักมากกกก
เกริ่นไว้ก่อนเลยว่าคอร์สเนื้อของที่นี่จะเป็นเนื้อญี่ปุ่นที่นุ่มและมันแทรก คุณไม่จำเป็นต้องมีลิ้นเทพหรือประสบการณ์การทานเนื้อระดับสูง ก็เข้าใจความอร่อยของมันได้ ขอเพียงทานเนื้อกึ่งดิบ-ไปจนถึงดิบพอได้ ก็เพียงพอสำหรับคอร์สนี้แล้วครับ
Wagyu Sushi
ซูชิเนื้อวากิวแบบดิบ ท็อปด้วย Uni จากฮอกไกโด, Ikura, ไข่ปลาคาเวียร์ และประดับด้วยทองคำเปลว เสิร์ฟมาพร้อมกับมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวเพียงเล็กน้อย หรือนำมะนาวไปถูๆ ที่ตัวเนื้อก่อนทาน
ถึงเนื้อจะดิบ แต่นุ่มลื่นมากครับ หอมกลิ่นมะนาวและรสเปรี้ยวเบาๆ ช่วยชูรสชาติและทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้นอีก
Pureed Soup
เมนูซุปเย็น ครั้งนี้เป็นซุปข้าวโพด ผสมด้วยน้ำสต๊อกปลาคัตสึโอะ รสชาติเหมือนดาชิแบบมีกลิ่นหอมข้าวโพด และมีความข้น อันนี้แปลกดี ไม่เคยทานแนวนี้
Wagyu Dish
ยังอยู่ในส่วนของ appetizer นะครับ จานนี้คือ Yukke (ยุกเกะ) ซึ่งเป็นเมนูที่ผมชอบมากอยู่แล้ว เนื้อดิบหั่นเป็นเส้นคลุกกับซอสปรุงรสและน้ำมันงา วางอยู่บนไข่แดงดิบ ให้คลุกก่อนทาน นุ่ม ลื่น หอมมากครับ
เนื้อดิบร้านนี้คุณภาพดีมาก สด สะอาด ไม่เหนียว ไม่คาว มอบเยี่ยมครับ
Thickly-Sliced Tongue “Cutting like a Flower”
มาถึงในส่วนที่จะต้องใช้เตากันบ้างแล้วครับ เมนูนี้คือลิ้นวัวและเนื้อส่วนสันนอกหั่นเต๋า เนื้อสันนอกลายมันแทรกสุดยอดไปเลยจ้า
รอยบากของลิ้นวัวที่เค้าทำมา ทำให้เมื่อโดนความร้อนจนเกือบสุกแล้วจะบานออก กลายสภาพคล้ายดอกไม้
แล้วถ้าถามว่าผมปิ้งเองเหรอ หึ เปล่า ไม่ได้ปิ้งเอง
ตรงนี้จะมีพี่พนักงานใส่สูททำให้ทุกอย่างหมดเลยครับ เพราะเค้าจะได้ทำเนื้อให้ระดับความสุกเหมาะสมที่สุดสำหรับความอร่อย (แต่ถ้าอยากได้แบบไหนก็บอกเค้าได้นะ) พี่ในภาพเค้าเป็นคนญี่ปุ่นนะครับ
พอดีว่าผมมากับเพื่อนที่คุยภาษาญี่ปุ่นได้เลยสนุก แต่ถ้ากลุ่มของท่านเป็นคนไทย ก็ให้พนักงานคนไทยดูแลได้ครับ (เลือกได้)
มาแล้วคร้าบบบบบ ก่อนทานให้นำวาซาบิป้ายลงไปเพียงเล็กน้อย
ลิ้นอร่อยมากกกกกกกกก ระดับความสุกกำลังดีมาก ทั้งหอม ทั้งมีความกรุบ ความเด้ง ไม่เหนียวเลย เคี้ยวเพลินมากกกก
Special Wagyu Loin
ถัดมาเป็นสันนอกครับ หั่นมาเป็นสี่เหลี่ยมเพราะเค้าจะย่างให้พอสุกแบบสี่ด้าน บล็อคน้ำในเนื้อไม่ให้ไหลออกมา ข้างในยังมีความแรร์ มีความจุ๊ยซี่
ความงงคือ อยู่ๆ พี่แกยกเจ้าสิ่งนี่มาวางบนโต๊ะเฉยเลยครับ ดูจากทรงของวัตถุสิ่งนี้ มันคือที่บีบวิปครีมนี่หว่า??
เค้าอธิบายให้ฟังถึงมาเข้าใจว่า อ๋อ สิ่งนี้เรียกว่าอาวะโชยุ เป็นโชยุที่นำมาปั่นเป็นครีม ให้ได้เทกเจอร์ที่คล้ายกับวิปครีม
จากนั้นนำมาป้ายเพียงเล็กน้อยบนเนื้อ อย่าเยอะนะครับ เพราะมันคือโชยุนี่แหละ ให้ได้รสชาติพอให้ได้รสชาติและกลิ่นหอม เนื้ออร่อยมากครับ ข้างในฉ่ำมาก
Special Menu (for 2 person)
เมนูพิเศษสำหรับมา 2 ท่าน จะได้รับเมนูนี้ มีความอลังการมาก มันคือเนื้อดิบสไลด์บาง ท็อปด้วยอูนิพูนๆ และไข่แดง ราดซอสลงไปรอบๆ ในส่วนของเนื้อถ้าใครไม่ชอบทานดิบขนาดนี้ก็แจ้งได้ตอนจองว่าให้เค้าเบิร์น ส่วนผมทานดิบๆ แบบนี้ล่ะครับ
คลุกทุกอย่างให้เข้ากันแล้วทาน เนื้อนุ่มลื่นอร่อยมาก แต่ด้วยตัวของซอสและความเข้มของเนื้อจะกลบอูนิไปพอสมควรเลย
Melt in your mouth Hamburg Steak
อีกหนึ่งเมนูที่ผมรอคอยเลยครับ เจ้านี่คือแฮมเบิร์กสเต็กในตำนานที่ทำให้ร้านนี้โด่งดังนั่นเอง เมนูนี้มีขายในแบบ A La Carte ด้วยนะครับ สามารถสั่งมาลองได้
กริลล์ด้านนอกมาสวยงามครับ เพียงใช้ตะเกียบแหวกมันออกมาเล็กน้อย เราจะพบกับเนื้อวากิว A5 ที่ชุ่มฉ่ำ ไม่ถึงกับเยิ้มดังชื่อ แต่ก็เข้าปากมันละลายวืบไปเลย แทบไม่ต้องเคี้ยว ทั้งนุ่ม ทั้งฉ่ำไขมัน และจุ๊ยซี่มากกกกกก
ด้านล่างเป็นพอนสึซอสรสไม่จัดมาก ดึงรสชาติเนื้อและให้ความรู้สึกสดชื่น เมนูนี้อร่อยแสงออกปากแลยจ้าาาาา
Colorful Namul
พักเบรคด้วยผักหลายสีคลุกกับน้ำมันงา อันนี้สำหรับพักลิ้นเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
Best of 2 Kinds, 2 Pieces Yakiniku
พี่ที่ย่างเนื้อให้ แกหายจากห้องไปสักพร้อมกับแจ้งว่าเตรียมกล้องไว้ให้พร้อมนะ แล้วพี่แกกลับมาพร้อมกับกระเป๋าที่มีควันพวยพุ่งออกมา อันนี้ตกใจเพราะอ่านรีวิวมาไม่มีอันนี้ คือไรวะะะะะะ
วางลงบนโต๊ะท่ามกลางพวกเราสามคน แล้วค่อยๆ เปิดออก ควันเริ่มจาง หื้มมมมมมมมมมม
โอ้ววววว มันคือเนื้อพรีเมียม เป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดที่เค้ามีในแต่ละวันหรือที่เค้าอยากจะนำมาพรีเซนต์ ซึ่งในครั้งนี้เป็นส่วนต้นขาด้านในและสะโพก แต่อย่างไรก็ตาม ขอยอมใจความเล่นใหญ่ของเค้าจริงๆ ครับ
วิธีการย่างสำหรับเนื้อสไลด์ของร้านนี้ เค้าจะนำเนื้อมาค่อยๆ แผ่ลงบนเตา ทิ้งไว้แค่อึดใจเดียว แล้วม้วนเนื้อเข้าด้วยกัน ไม่มีการกลับด้าน เพื่อรักษาน้ำในเนื้อให้อยู่มากที่สุด
นี่ครับ อร่อยมากกกกกก หอมมาก รสชาติเนื้อมีความจัดเล็กน้อย นุ่ม แต่ไม่ถึงกับละลายหายไปในปาก ยังมีเทกเจอร์พอให้เคี้ยวเพลินๆ ขณะที่เคี้ยวฟันของเราก็จะรีดน้ำข้างในเนื้อมันออกมา ทำให้ได้รสชาติและความหอมของเนื้อข้างในปาก
Steamed Wagyu
เนื้อส่วนสันนอก A5 ลายมันโคตรฟรุ้งฟริ้ง ถือโชว์ให้ถ่ายรูปก่อนที่จะนำไปนึ่ง
การนึ่งนี้เค้าก็ยกทั้งซึ้งมาวางบนเตาปิ้งย่างเมื่อสักครู่เลยครับ
เสร็จแล้วครับ ด้านล่างเป็นพอนสึ ผักกะหล่ำจะดูดน้ำไว้ในตัว กรอบๆ หอมๆ เปรี้ยวนิดๆ เนื้อผมว่าแอบสุกไปนิดแต่ด้วยความที่เป็นเนื้อสันนอกที่มีมันแทรกเยอะขนาดนี้ ก็ยังนุ่มอร่อยอยู่แน่นอนครับ ฟิน
Tonight’s Sukiyaki
แปลตรงตัวสุดๆ คือ สุกี้ยากี้สำหรับคืนนี้ ใช้เนื้อวากิวสันนอก A5 แบบนึ่งด้านบนนี้เลยครับ นำไปแผ่ลงในเตา จากนั้นราดน้ำสุกี้ยากี้ เสิร์ฟด้วยการนำไปชุบลงในไข่แดง น่ากินม๊ากกกกกกกก
นำไข่แดงไปคลุกให้เคลือบตัวเนื้อแล้วทาน ฟินมากกกกกก ตัวเนื้อที่ดูดน้ำซอสสุกี้ยากี้พร้อมกับเทกเจอร์ลื่นๆ ของไข่แดงมันเข้ากันมากๆ และเนื้อที่มีมันแทรกนุ่มอร่อย นี่คือความเพอร์เฟคของโลกนี้ แง้ อยากกินอีกหลายๆ คำ
Soup
ซุปที่มาแบบใสๆ มีเห็ดหอมและต้นหอมลอยอยู่นิดหน่อย ด้วยความใสของมันทำให้มองว่าเป็นซุปที่ดูเหมือนจะเบาๆ แต่พอซดไปปรากฏว่าเจอรสชาติที่เข้มระดับหนึ่ง มีความหอมเบาๆ
Namerou Beef Ochazuke
นาเมโระ (ข้าวหน้าเนื้อ) เนื้อดิบ A5 บดปั้นเป็นก้อนวางท็อปไว้บนข้าวสวย รินน้ำซุปร้อนๆ ลงไป ยีเนื้อให้โดนความร้อนจนสุกนิดๆ เติมสาหร่าย ต้นหอม หรือวาซาบิตามใจชอบ เป็นเมนูเบาๆ ซดร้อนๆ เป็นเมนูของคาวที่ปิดท้ายได้สวยงาม
Today’s Dessert
ของหวานวันนี้เป็นคากิโกริสตรอว์เบอร์รี ทานคู่กับชาร้อนสลับกันให้ปากอุ่นๆ แล้วทานคากิโกริต่อ ได้ความฟรุตตี้ปิดท้ายเนื้อหนักๆ ถือว่าลงตัวเลยครับ
สรุปรีวิว Shoutaian Course ที่ร้าน Tokyo Yakiniku Shoutaian
- เป็นร้านยอดนิยมของคนญี่ปุ่น ที่มาเปิดในบ้านเรา ใครอยากทานเนื้อญี่ปุ่นดีๆ จากคนญี่ปุ่นแท้ๆ ก็แนะนำครับ
- ด้วยความเป็นเนื้อวากิว A5 เนื้อทุกเมนูจะนุ่มลื่น ไร้ความเหนียว เนื้อดิบยังอร่อยมากๆ
- เมนูที่ทำให้ผมแสงออกปากได้แก่ ลิ้นวัวดอกไม้, แฮมเบิร์กดื่มได้ และสุกี้ยากี้ แต่เมนูอื่นก็เด็ดทุกเมนูเช่นกัน
- นอกจากรสชาติอาหารที่ดีงามแล้ว ยังมีลูกเล่นน่ารักๆ อย่างการแนะนำของพนักงาน หีบใส่เนื้อ การนำเนื้อมาให้เราถ่ายรูปก่อนทาน เป็นความใส่ใจที่น่ารักดี
- ราคาถือว่าไม่เบา แต่ถ้าเทียบกับรสชาติและบริการของร้าน เอาไปเลย 10 10 10 รับรองว่าไม่เสียดายแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : facebook.com/Shoutaianbkk
- Location : ร้าน Tokyo Yakiniku Shoutaian (โชไทอัน) ชั้น 3 ของโรงแรม Hotel Nikko (โซน Ginza Thonglor) สุขุมวิท 55 ห่างจาก BTS ทองหล่อ 200 เมตร
- Google Maps : https://goo.gl/maps/d3Qsabg4tpn
- Open : 11:30-14:00 และ 17:00-23:00
- Tel : 062-554-2981