แอดมินไปเที่ยวญี่ปุ่นมา ไปทริปกินทั่วโอซาก้านั่นแหละ 55+ จะทยอยเขียนบล็อก รีวิว หรือที่เที่ยวแจ่ม ๆ ในโซนโอก้าให้แล้วกัน ก่อนหน้านี้ แอดมินรีวิวเนื้อโกเบสุดฟินที่ร้าน Steak Land ไปตามอ่านย้อนหลังกันได้นะ
ตอนนี้ก็เวิ่นเว้อมามากพอแล้ว เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ขอบอกก่อนว่าวันนี้มีสาระนิดนึง เพราะวันนี้จะพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ Nissin (นิสชิน) อยู่แถว ๆ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เดี๋ยวปักหมุดให้ตอนท้าย
เอาล่ะพอลงจากสถานีรถไฟก็เดินมาที่พิพิธภัณฑ์ประมาณครึ่งกิโล ก็จะเจอกับตึกสองชั้นกว้าง ๆ แล้วเขียนว่า “The Instant Ramen Museum”
ด้านหน้าก็จะมีอนุสาวรีย์ผู้ก่อตั้งบริษัทนิสชินขึ้นมา
ซูมกันให้เห็นชัด ๆ คุณลุงคนนี้ชื่อ Momofuku Ando เป็นคนที่หล่อเลี้ยงเราในยามไม่มีเงิน ช่วงสิ้นเดือน หรือไม่มีอะไรจะกิน รออะไรอยู่ล่ะครับ เอ๊าาา !! กราบบบบบบบบ _/|\_
ที่นี่เปิด 9.30 ถึง 4 โมงเย็น และจะหยุดทุกวันอังคาร ส่วนค่าเข้าชม ฟรี !!!! ดีงามมากเลยย
เข้าไปก็จะเจอร้านขายของที่ระลึกเลย ข้ามไปก่อน เราเข้าไปในพิพิธภัณฑ์กันเลย เข้าไปก็จะเจอประวัติตั้งแต่ก่อตั้งจะถึงบริษัทนิสชินถึงปัจจุบันว่าเป็นมาอย่างไรบ้าง
และรูปนี้ก็คือ คุณลุงเอ็นโด้ ผู้ก่อตั้งนิสชินขึ้นมา ก็คือคนเดียวกับรูปปั้นนั่นแหละ โดยคุณลุงก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 1948 โดยลุงเอ็นโด้ มีเป้าหมายว่าอยากให้ทุกคนได้กินราเมนที่อร่อย ๆ ที่ไหนก็ได้ ทำกินเองได้ทุกที่
อันนี้เป็นห้องครัวของคุณลุงเอ็นโด้ ไว้คิดสูตรบะหมี่สูตรแรกของเค้า มีตั้งแต่เครื่องนวดแป้ง ตาชั่ง หม้อ ตะกร้า และอีกสารพัด
อันนี้เป็นเครื่องรีดแป้งและตัดเส้นขนาดใหญ่กว่ารูปข้างบน ดูเก่า ขลังมาก
ในปี 1958 นิสชินรุ่นแรกของลุงเอ็นโด้ก็เริ่มวางจำหน่าย รุ่นนี้จะแพ็คอยู่ในซองพลาสติก ซึ่งไม่ค่อยสะดวกในการรับประทานเท่าไหร่
ต่อมาในปี 1971 ได้พัฒนาให้บรรจุอยู่ในถ้วย โดยใช้ชื่อว่า “Cup Noodle” ที่ทุกคนรู้จักกัน ซึ่งมันสะดวกมากกว่าเป็นซองพลาสติกแบบเก่ามาก คือแค่ใส่น้ำร้อน รอ 3 นาที แล้วกินได้เลย
อันนี้เป็นเครื่องที่ใส่ลงไปในถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมด มีตั้งแต่หมู ไก่ เต้าหู้ ต้นหอม เห็ด บลา ๆๆ
และนี่คือตู้หยอดเหรียญของนิสชินในสมัยก่อน ตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว ส่วนมากจะวางไว้ตามร้านสะดวกซื้อซะมากกว่า
ก่อนที่จะพัฒนาเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เรากินนั้น ลุงเอ็นโด้ก็ได้นอนคิดแก้ปัญหากระบวนการผลิตที่แสนยากลำบากอย่างหนึ่งก็คือ การใส่เส้นบะหมี่ลงไปในถ้วยยังไงให้พอดี ??
เพราะว่าถ้าเราหย่นบะหมี่ลงไปในถ้วยตรงๆ โอกาสที่เส้นบะหมี่จะลงถ้วยพอดี แทบจะเป็นศูนย์ เลยคิดวิธีการใส่เส้นบะหมี่ใหม่ โดยการวางเส้นบะหมี่ไว้ จากนั้น คว่ำถ้วยลงไปตามรูป โอกาสที่จะทำให้เส้นเข้าไปในถ้วยได้ก็แทบจะเป็น 100% เลยทีเดียว
การพัฒนายังไม่จบแค่นี้ นิสชินก็ได้พัฒนาบะหมี่ให้นักบินอวกาศได้กินกัน
ซึ่งปัญหาใหญ่ก็คือ บนอวกาศแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ ทำให้บะหมี่ลอยเคว้ง กินลำบากอีก
ต่อมาก็พัฒนาให้น้ำซุปข้นขึ้น เหนียวขึ้น จะได้เกาะกับเส้น ถ้าลอยก็จะลอยไปเป็นก้อนใหญ่ ๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่
สุดท้ายก็ทำเป็นขนมซะเลย ทำเป็นก้อน ๆ พอดีคำ กินง่าย ๆ อัดลงไปในถุงสูญญากาศ
และนี่เป็นบะหมี่ของนิสชินทั้งหมด เยอะมากกกก ลายตาไปหมด โดยด้านซ้ายของภาพก็คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายอยู่ในท้องตลาดตอนนี้
และนี่คือบะหมี่ห่อแรกของนิสชินเค้าแหล่ะ
และนี่เป็นห้องชมวีดิทัศน์ประวัติของนิสชินที่อธิบายมายาวเยียดนั่นแหละครับ โดยจะนำเสนอมาเป็นการ์ตูนน่ารัก เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ
และรูปนี้อธิบายว่าทำไมต้องเหลือพื้นที่ด้านล่างถ้วยไว้ ทำไมไม่ใส่เส้นให้เต็มถ้วยเลย จะได้เยอะ ๆ กินอิ่ม ๆ ?? เหตุผลก็คือเมื่อเราต้มเส้นบะหมี่แล้ว เส้นมันก็จะอืดเต็มถ้วยพอดี ไม่ล้นออกมา
เอาล่ะ พอเรื่องประวัติกันล่ะ เดี๋ยวจะดูตึงเครียดกันไปใหญ่ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มี Workshop สอนทำเส้นบะหมี่ด้วยนะ
แต่ก็ต้อง ร้องไห้หนักมาก เพราะตอนที่แอดมินไป เค้าจองกันเต็มหมดแล้ว เต็มทั้งวันด้วย เลยได้แค่ถ่ายรูปจากข้างนอกมาให้ดูกัน สำหรับ Workshop นี้ให้ลงไปจองคิวด้านล่าง ซึ่งวันนึงจะมี 3 รอบ รอบสาย บ่าย เย็น ประมาณนั้น และมีค่าใช้จ่ายด้วย จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่
โดย Workshop อันนี้ให้ทำบะหมี่ตั้งแต่นวดแป้งเลยทีเดียว มันน่าจะสนุกดี ผ้ากันเปื้อนก็มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวเหลือเกิน
และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมี Workshop อีกอันนึง ใครทำก็ได้ ไม่จำกัดจำนวน ไมต้องรอคิว ก็คือวาดภาพ ระบายสีถ้วยบะหมี่ของเรา เพียง 300 Yen เท่านั้น
คนเยอะอยู่
ขั้นตอนแรกก็หยอดเหรียญลงไปในตู้เลย เลือกอันไหนก็ได้มันเหมือนกันหมด เราก็จะได้ถ้วยเปล่า ๆ ออกมาใบนึง
ต่อมาเราก็ต้องล้างมือ ทำความสะอาดซะก่อน เชื้อโรคจะได้ไม่ลงไปในถ้วย
พนักงานก็พาไปนั่งที่โต๊ะ จากนั้นก็เริ่มระเลงถ้วยของเราตามใจชอบเลย โดยเวลาระบายห้ามเกินเส้นสีแดง ข้างบน กับข้างล่างนะครับ
เวลาผ่านไปซักครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จเรียบร้อย แอดมินวาดอะไรไม่ค่อยเป็น ผลงานเลยดูเหมือนเด็กอนุบาลขนาดนี้ T__T
เสร็จแล้วก็ไปต่อคิว ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเรากันเลย
สเตปแรกก็ เอาบะหมี่ใส่ลงไปในถ้วยนั่นแหละ โดยการคว่ำถ้วยเราลงไปบนบะหมี่จากนั้นก็พลิกกลับมา
ช็อตนี้แอดมินกำลังตื่นเต้นอยู่ เลยถ่ายไม่ทัน โฟกัสไม่ทัน เบลอไปหมดเลย เครื่องนี้เป็นเครื่องพลิกถ้วยนั่นแหละ
และนี่เป็นเครื่องเคียงทั้งหมด โดยเค้าจะเลือกรสชาติ 1 รส จาก 4 รสชาติด้านในสุด ก็มี Original, Seafood, Chili Tomato และก็ Curry
ตอนมาให้เลือกใส่เครื่องเคียงได้ 4 อย่าง มีเยอะมากเลือกไม่ถูกเลย
เสร็จแล้ว !!! หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้
ต่อมาก็ปิดฝาด้วยความร้อน
หุ้มพลาสติกใส
เข้าเครื่องอบความร้อนให้พลาสติก หุ้มถ้วยของเราสนิทสวยงามเหมือนที่วางขายกันตามท้องตลาด
เสร็จแล้ว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป D.I.Y. ที่มีเพียงถ้วยเดียวในโลก
สุดท้ายและท้ายสุด ก็มีถุงพลาสติกพร้อมเชือกให้ถือกลับบ้านสวย ๆ ได้ด้วย
มันก็จะเป็นแบบนี้ สวยงามมมมม
ปล. ถ้าสูบลมเข้าไปห้ามเอาขึ้นเครื่องบินนะ เพราะความดันอากาศอาจจะทำให้ระเบิดได้ เพราะฉะนั้น ให้เอาตะเกียบหรืออะไรยาว ๆ แทงเข้าไปให้ลมออกก่อน แล้วก็พับใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องไป
เกือบลืมเลย และนี่เป็นร้านขายของที่ระลึก เป็ดเต็มไปหมดเลย (ก็แหงล่ะ เป็ดเป็นมาสคอตของนิสชินนี่)
สรุป
พิพิธภัณฑ์ของนิสชิน ถือว่าได้ความรู้ไปเต็ม ๆ แถวยังมี Workshop ที่สนุกสนานอีกด้วย ใครมาเที่ยวโอซาก้า ก็แนะนำให้มาเที่ยว นั่งรถไฟไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วใกล้ ๆ